เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
bg-single

จีนจะใช้ ‘แร่หายาก’ เป็นอาวุธสยบทรัมป์?

10.06.2025

กาแฟดำ | สุทธิชัย หยุ่น

จีนจะใช้ ‘แร่หายาก’

เป็นอาวุธสยบทรัมป์?

“อาวุธไม่ค่อยลับ” ที่จีนอาจใช้ในการกดดันสหรัฐในการเจรจาคือ “แร่หายาก” หรือ rare earth

มันคือทรัพย์ในดินสินในน้ำที่สี จิ้นผิง มีเหนือโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างชัดเจน

โลกวันนี้ อาวุธที่ทรงพลังที่สุดในการเผชิญหน้าอาจจะไม่ใช่ขีปนาวุธหรือรถถัง ไม่ใช่แม้กระทั่งอาวุธนิวเคลียร์ที่หากตัดสินใจใช้ก็เท่ากับเป็นการ “ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย”

ผู้นำที่ฉลาดจะต้องเก็บไพ่ใบสุดท้ายไว้ถึงนาทีสุดท้ายจริงๆ และชัยชนะอาจจะมาจากการที่ไม่ต้องทิ้งไพ่ใบนั้นด้วยซ้ำ เพราะถ้าหากถึงขั้นต้องคิดถึงไพ่ใบสุดท้ายก็หมายความว่าถูกต้อนเข้ามุมแล้ว

นักยุทธศาสตร์ที่เก่งย่อมจะไม่ยอมทำศึกจนต้องคิดถึงการใช้อาวุธร้ายแรงที่ตนมี

เพราะตระหนักว่าอีกฝ่ายหนึ่งเขาก็มีไพ่ใบนี้เหมือนกัน

ทั้งสองฝ่ายต่างรู้ดีว่าไม่ว่าสถานการณ์จะบีบรัดเพียงใดก็ต้องไม่ถึงกับต้อง “เข้าตาจน” เช่นนั้น

ดังนั้น อาวุธที่ควรจะต้องนำออกมาใช้ก่อนจึงต้องมาในรูปแบบที่มีเป้าหมายเพียงเพื่อกดดันอีกฝ่ายหนึ่งให้ต้องยอมถอยสองสามก้าวเพื่อบรรลุข้อตกลงที่ต่างฝ่ายต่างพอจะรับได้เท่านั้น

ไม่ต้อนให้อีกฝ่ายหนึ่งติดมุมจนต้องคิดหาทางต่อสู้ด้วยอาวุธทำลายล้างที่มีผลทำลายล้างกว้างขวางรุนแรงจนกระทบไปทั่วโลก

อาวุธ “ใต้ดิน” จึงเป็นประเด็นที่กำลังกล่าวขวัญกันอยู่

ที่ซ่อนอยู่ใต้ดินในรูปของ “แรร์เอิร์ธ” หรือแร่หายากเป็นทรัพยากรสำคัญในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีขั้นสูง ทั้งในภาคพลเรือนและการทหาร

ประเทศที่ถือไพ่เหนือกว่าทุกชาติในโลกเรื่องนี้คือจีน และมีสัญญาณชัดเจนมากยิ่งขึ้นทุกวันว่าปักกิ่งอาจใช้ทรัพยากรที่ตนมีอย่างอุดมสมบูรณ์นั้นกดดันสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรได้ – หากเกิดความจำเป็น

หรือแม้จะยังไม่นำออกใช้เป็นอาวุธในยามนี้ก็ส่งข่าวไปบอกให้รู้ว่าจีนมีไพ่ใบนี้ใน “คลังแสง” แห่งการต่อรอง

แรร์เอิร์ธคืออะไร? ไฉนจึงมีความสำคัญในสงครามการค้า?

แรร์เอิร์ธ (Rare Earth Elements หรือ REEs) คือกลุ่มธาตุโลหะหายาก 17 ชนิด ที่จำเป็นต่อการผลิตเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น :

สมาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์

รถยนต์ไฟฟ้า

กังหันลมและแผงโซลาร์เซลล์

อาวุธไฮเทค เช่น ขีปนาวุธนำวิถี เครื่องบินรบ และระบบเรดาร์

เทคโนโลยีสีเขียวและความมั่นคงของชาติในศตวรรษที่ 21 ล้วนต้องพึ่งพาแร่เหล่านี้

จีนผลิตแรร์เอิร์ธมากกว่า 60% ของปริมาณทั่วโลก

อีกทั้งยังควบคุมกระบวนการแปรรูปมากถึง 85%

เป็นกระบวนการที่มีขั้นตอนที่ซับซ้อนและมีต้นทุนสูง

แม้บางประเทศจะมีเหมืองแรร์เอิร์ธ แต่ก็ยังต้องส่งไปให้จีนแปรรูปอยู่ดี

ทำให้จีนกลายเป็น “คอขวด” ของห่วงโซ่อุปทานโลกอย่างปฏิเสธไม่ได้

ที่เริ่มมีนักวิเคราะห์มองว่าจีนอาจจะควักอาวุธนี้ออกมาต่อรองกับทรัมป์ก็เพราะปักกิ่งเคยใช้เป็นเครื่องมือต่อรองมาแล้วในอดีต

เรื่องนี้จึงมิใช่เพียงแค่เรื่องเกทับบลั๊ฟฟ์แหลก…หรือเรื่องเด็กเลี้ยงแกะ

เพราะเมื่อปี 2010 จีนเคยตัดการส่งออกแรร์เอิร์ธไปยังญี่ปุ่นช่วงเกิดข้อพิพาททางทะเล

สร้างความตื่นตะลึงในตลาดแร่ของโลก ราคาพุ่งพรวด ประเทศต่างๆ ทั่วโลกตื่นตระหนก

นั่นย่อมเป็นสัญญาณชัดเจนว่าจีนสามารถและพร้อมใช้แรร์เอิร์ธเป็นเครื่องต่อรองทางการเมือง

จึงมีคำถามตามมาว่าถ้าสี จิ้นผิง ใช้ “แร่หายาก” เป็นเครื่องมือต่อรอง สหรัฐจะเผชิญความเสี่ยงแค่ไหน?

ทรัมป์ย่อมตระหนักดีว่าสหรัฐต้องพึ่งพาแรร์เอิร์ธในการพัฒนาและสร้างเทคโนโลยีระดับสูงรวมถึงการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์

แต่อเมริกามีเหมืองเพียงหนึ่งแห่งที่ใช้งานอยู่ที่ Mountain Pass ในแคลิฟอร์เนีย

กระนั้นก็ยังต้องส่งแร่ไปให้จีนแปรรูป

หากเกิดความตึงเครียด เช่นกรณีไต้หวันหรือสงครามการค้าระเบิดตูมตามขึ้นมารอบใหญ่ จีนอาจตัดการส่งออกแร่ให้สหรัฐ ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างหนัก

กระทบทั้งต่อ :

การผลิตอาวุธไฮเทค

อุตสาหกรรมพลังงานสะอาด

ภาคเทคโนโลยีและเศรษฐกิจโดยรวม

ผมย้อนไปเช็กข้อมูลว่าจีนเคลื่อนไหวเรื่องนี้ล่าสุดเมื่อใด ได้ความว่าในปี 2023 จีนเริ่ม “จำกัด” การส่งออกแร่ชนิดอื่น เช่น แกลเลียม และเจอร์เมเนียม ที่ใช้ในวงจรไฟฟ้าและอุปกรณ์ทหาร

การเคลื่อนไหวครั้งนั้น นักวิเคราะห์ยุทธศาสตร์ด้านการความมั่นคงมองว่าเป็น “สัญญาณเตือน” ว่าจีนอาจทำแบบเดียวกันกับแรร์เอิร์ธ

ที่ผมคิดว่าเราต้องคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังเพราะต้องมองเรื่องนี้ใกล้บ้านเรา

เพราะจีนไม่เพียงแต่ผลิตแร่หายากภายในประเทศเท่านั้น ปักกิ่งยังมีบทบาทสำคัญในประเทศเพื่อนบ้านของไทย โดยเฉพาะเมียนมาอย่างคึกคักในหลายๆ มิติ

และหนึ่งในสิ่งที่จีนแสวงหารอบๆ บ้านเราคือแหล่งแรร์เอิร์ธในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพราะความใกล้ชิดด้านภูมิศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจอย่างแนบแน่น

ข้อมูลที่น่าสนใจมากคือเมียนมาครองส่วนแบ่งประมาณ 10% ของแรร์เอิร์ธที่จีนแปรรูปทั้งหมด

พื้นที่รัฐคะฉิ่นทางตอนเหนือของเมียนมา เป็นแหล่งแร่ที่มีความเข้มข้นสูง

แต่ส่วนใหญ่ถูกขุดโดยกลุ่มเหมืองผิดกฎหมาย ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับบริษัทจีนและกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่น

เหตุผลสำคัญที่จีนเคลื่อนไหวเข้ามามีอิทธิพลทางเศรษฐกิจในเมียนมาอย่างมากส่วนหนึ่งก็เพื่อควบคุมเส้นทางส่งแรร์เอิร์ธนี้

การลงทุนในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ท่าเรือ ถนน และเหมืองที่ทำในนาม Belt and Road Initiative (BRI) ก็ล้วนเชื่อมโยงกับความต้องการแรร์เอิร์ธในจีนทั้งสิ้น

แต่ใช่ว่าจีนจะไม่สำเหนียกถึงผลกระทบทางลบที่อาจย้อนกลับมาปะทะตนเอง

เพราะแม้จีนจะถือไพ่เหนือกว่าชาติอื่นในเรื่องนี้ แต่การใช้แรร์เอิร์ธเป็นอาวุธอาจกระตุ้นให้ประเทศอื่นลุกขึ้นมาปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง…และไม่ตกเป็นเบี้ยล่างของจีน

นั่นคือประเทศอื่นก็อาจจะเห็นความจำเป็นที่จะต้องเร่งสร้างห่วงโซ่อุปทานของตัวเอง

หันไปหาแหล่งแร่ในประเทศอื่น เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา หรือแม้แต่เมียนมา (โดยไม่ผ่านจีน)

หรือใช้กระบวนการรีไซเคิลและเทคโนโลยีใหม่แทน

นอกจากนี้ การใช้แรร์เอิร์ธเป็นเครื่องต่อรองทางการค้าหรือการเมืองอาจทำให้จีนถูกฟ้องร้องในองค์การการค้าโลกหรือ WTO

อันอาจจะทำให้สถานภาพของจีนถูกเซาะกร่อนในระดับความน่าเชื่อถือทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจในเวทีระหว่างประเทศ แต่ในภาพรวมแล้วต้องยอมรับว่าจีนมีอำนาจมหาศาลในตลาดแรร์เอิร์ธ

ซึ่งหากใช้ในจังหวะเหมาะเจาะและในระดับพอเหมาะพอสมก็อาจสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการกดดันสหรัฐและประเทศอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตหรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์

แต่การใช้ “อาวุธ” ตัวนี้มากไปหนักไปก็อาจทำให้โลกหันหลังให้จีนในระยะยาว

และนำไปสู่การลดบทบาทของจีนในห่วงโซ่อุปทานระดับโลก

บทสรุปของเรื่องนี้คือในเกมพลังอำนาจของศตวรรษนี้ แม้แต่แร่ที่เรามองไม่เห็น ก็สามารถกลายเป็นอาวุธที่ทรงพลังได้

ถ้าใช้ให้ถูกจังหวะ, ในระดับพองาม, และพร้อมจะประนีประนอมก่อนที่จะใช้มันเป็น “อาวุธทำลายล้าง” มากกว่าจะเป็น “ไพ่ต่อรอง” เท่านั้น

ที่แน่ๆ คือทรัมป์ไม่กล้าตะโกนใส่สี จิ้นผิงว่า “You don’t have cards” (คุณไม่มีไพ่เล่น)

เหมือนที่เคยตะคอกใส่ประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครน…หรือปูตินของรัสเซียก่อนหน้านี้แน่นอน!



เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

หวยออกที่อิ๊งค์
ช็อก! ทรัมป์เล่นแรงเก็บภาษีไทย 36% ชี้ผลเสียหายมากกว่าตัวเลข “ส่งออก” “พิชัย” แบกภารกิจชาติ “สู้ต่อ-สู้ไม่ถอย”
‘เศรษฐกิจไทย’ ตกหลุมอากาศ เจอ Perfect Storm 3 ลูกซัด การเมือง-ภาษีทรัมป์-ท่องเที่ยวทรุด
พรรคน้ำเงินกับพลังตัวซีเคร็ต
จริงหรือที่ว่าเด็กรุ่นใหม่
การเลือกตั้งวุฒิสมาชิกญี่ปุ่น (参院選挙) ปี 2025
‘ไม่มีประชาธิปไตยในความรัก’ : รำลึกถึงกูกิ วา ทิอองโก (Ngũgĩ wa Thiong’o)
ผมจะทำอะไรกับประกันสังคม หากมีอำนาจเป็นรัฐบาลสักสามเดือน
MatiTalk ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไม่เคยสิ้นหวัง ไม่ต้องห่วงเพื่อไทยจะพัง อำนาจรัฐที่มาจากประชาชนต้องมาก่อน
เปิดประตูสู่ซีอานกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ดาวกับดวงวันอังคารที่ 15 กรกฎาคม 2568
‘ฮุน มาเนต’ เล็งเดินหน้าใช้กฎหมาย ‘บังคับเกณฑ์ทหาร’ เริ่มปี 2026 ชี้เพื่อเสริมสร้างกำลังทหารของประเทศ เพิ่มระยะเวลาการฝึกภาคบังคับ เป็น 24 เดือน