

เมนูข้อมูล | นายดาต้า
‘เสียงแห่งทุกข์’ ดังไม่ถึง
ต้นเดือนที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 6-9 พฤษภาคม “สวยดุสิตโพล” ได้สำรวจเรื่อง “คนไทยกับการรับมือปัญหาเศรษฐกิจ” ด้วยคำถามที่น่าสนใจทีเดียว
ที่เห็นว่านายสนใจเพราะแม้ว่า “สงครามการค้า” ระหว่าง “สหรัฐกับจีน” หลังมีการเจรจาและผลออกกมาดูจะเป็นที่พอใจของทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้เกิดการคลี่คลายบรรยากาศที่ตึงเครียดไปทั่วโลกก่อนหน้านั้นลงได้มาก
ภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บกันในอัตราที่การการส่งออก-นำเข้าต้องหยุดชะงัก กลับมาอยู่ในอัตราที่ทำมาค้าชายกันได้
และเมื่อยักษ์ใหญ่ยุติสงคราม หญ้าแพรกอย่างประเทศไทยย่อมคลายกังวลลง เพราะสถานการณ์ที่เป็นเพียงประเทศอยู่ในข้อกล่าวหาว่าเป็นฐานให้ประเทศจีนเลี่ยงภาษีย่อมได้รับการประนีประนอมตามน้ำไปด้วย ไม่ต้องซีเรียสอะไรมากกับการต้องเตรียมตัวเจรจาเหมือนที่ผ่านมา
แต่กระนั้นก็ตาม ประเทศไทยเรายังมีเงื่อนไขที่เป็นลบมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านที่ตกอยู่ในสถานะเดียวกัน เนื่องจากถูกตั้งข้อรังเกียจในการจัดการเรื่องเกี่ยวกับมนุษยชน ทั้งกรณีอุยกูร์ และการดำเนินคดีกับนักวิชาการอเมริกัน
ทั้งนี้ ยังไว้วางใจได้ลำบากว่าจะได้รับการประนีประนอมจาก “มหาอำนาจ” อย่าง “สหรัฐ”
เมื่อประกอบกับปัญหาภายในประเทศ ที่ความเป็นไปทางการเมืองที่รัฐบาลถูกปิดกั้นการสร้างผลงานเพื่อสร้างรายได้ให้ประเทศ ขณะที่แรงกดดันให้ต้องเพิ่มงบประมาณดูแลประชาชนให้พอเหมาะกับความเดือดร้อนจากภาษีเศรษฐกิจที่เป็นปัญหาต่อเนื่องมาจาก “ยุทธการแช่แข็งประเทศ”
ทำให้เชื่อกันว่าจะหนีไม่ออกจาก “วิกฤตเศรษฐกิจรุนแรง” เพราะทุกเงื่อนไขไม่ส่งผลให้คนทั่วไปมีความหวังเอาเสียเลย
เมื่อ “สวนดุสิตโพล” ตั้งคำถามไปที่ความสามารถในการรับมือของประชาชน คำตอบที่ออกมาจึงน่าสนใจ เพราะผู้มีหน้าที่รับผิดชอบนำไปใช้ประโยชน์ได้
“กังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้เพียงใด” ร้อยละ 51.85 ค่อนข้างกังวล, ร้อยละ 40.60 กังวลมาก, ร้อยละ 6.67 ไม่ค่อยกังวล, ร้อยละ 1.14 ไม่กังวล
“กังวลเรื่องใด” ร้อยละ 73.23 ราคาสินค้าแพงขึ้น, ร้อยละ 67.36 ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น, ร้อยละ 65.58 หนี้สินครัวเรือนสูงขึ้น
“มีเงินสำรองฉุกเฉินที่เพียงพอต่อการใช้จ่ายได้กี่เดือน” น้อยกว่า 1 เดือน ร้อยละ 48.32, 1-3 เดือน ร้อยละ 35.24, 4.6 เดือน ร้อยละ 9.85, มากกว่า 6 เดือน ร้อยละ 6.59
“วางแผนการเงินอย่างไร” ร้อยละ 58.99 วางแผนแต่ไม่ได้ทำต่อเนื่อง, ร้อยละ 27.83 วางแผนอย่างต่อเนื่อง, ร้อยละ 13.18 ไม่เคยคิดวางแผนเลย
“เชื่อมั่นต่อรัฐบาลไทยในการแก้ปัญหาผลกระทบต่อการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐหรือไม่” ร้อยละ 76.06 ไม่เชื่อมั่น, ร้อยละ 23.94 เชื่อมั่น
คําตอบทั้งหมดตามผลโพลนี้สะท้อนชัดถึงความทุกข์ร้อนในใจผู้คน ที่ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจด้วยความหวาดวิตกสูงยิ่ง อีกทั้งคนส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดไม่มีความสามารถที่จะรับมือกับความเดือดนร้อนที่เกิดขึ้น โดยมีความไม่เชื่อมั่นต่อความสามารถของรัฐบาลในการคลี่คลายปัญหาเป็นตัวซ้ำเติมให้ต้องอยู่ในความวิตกกังวลอย่างถาวร
เป็นสภาวะชีวิตคนไทยในยุคสมัยเช่นนี้ ที่เกิดความสิ้นหวังในทางออกไปเสียทุกด้าน
อย่างไรก็ตาม แม้ประชาชนส่วนใหญ่จะอยู่ในสภาพที่ต้องตั้งคำถามต่อกันและกันว่า “จะอยู่รอดกันอย่างไร”
ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการปัญหา กับแสดงท่าเหมือนไม่รู้สึกรู้สาสักเท่าไรต่อความหวั่นวิตกนั้น
เพราะในหมู่ผู้มีอำนาจ หรือหมู่คนเสียงดัง “ความเหลื่อม” ทำให้ไม่ได้ยินเสียงความหวั่นกังวลของคนส่วนใหญ่นัก
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022