นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัท หลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ประเมินดัชนีหุ้นไทยในระยะสั้นจะเข้าสู่ช่วงอิ่มตัว และแกว่งตัวพักฐานไปจนถึงช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ โดยมีกรอบแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,690-1,715 จุด สาเหตุเพราะผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทยในไตรมาส 2 ของปี 2562 อาจเติบโตลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 และลดลงเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ประกอบกับตลาดหุ้นทั่วโลกรับรู้ข่าวการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไปมากแล้ว รวมถึงเงินบาทเริ่มกลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาปรับเกณฑ์มาตรการป้องปรามการเก็งกำไรค่าเงินบาทให้เข้มงวดมากขึ้น
นายอภิชาติกล่าวว่า จากการรวบรวมประมาณการกำไรไตรมาส 2 ปี 2562 ของตลาดโดยรวมทั้งสิ้น 133 ตัว ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมคิดเป็น 79% ของมูลค่าตลาดรวมทั้งหมด (ข้อมูล ณ วันที่ 17 กรกฎาคม) คาดว่าบริษัทจดทะเบียนไทยจะมีกำไรสุทธิโดยรวมอยู่ที่ 1.94 แสนล้านบาท ลดลง 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 และลดลง 11% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ราคาน้ำมันที่ปรับลดลง และการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานตามกฎหมายแรงงานฉบับใหม่ จึงแนะนำให้นักลงทุนควรระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น และเลือกลงทุนเป็นรายตัว
“การลงทุนในเชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้แนะนำให้หาจังหวะตั้งรับในช่วงอ่อนตัวบริเวณแนวรับสำคัญ โดยเน้นลงทุนหุ้นที่มี 3 คุณสมบัติครบ คือ 1.มีประเด็นบวกในระยะสั้น 2.คาดงบออกมาดี และ 3.มีปันผลจ่ายระหว่างกาล โดยธีมการลงทุนหลักช่วงนี้ ยังชอบหุ้นอิงเศรษฐกิจในประเทศ เนื่องจากคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ ทั้งในแง่ของการบริโภคและการลงทุน แต่อยากให้นักลงทุนเลือกลงทุนเฉพาะหุ้นที่คาดว่างบจะเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2561 และมีปันผลจ่ายระหว่างกาล” นายอภิชาติกล่าว
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
