ยอดหนี้องค์การค้าฯ 5.7 พันล.เล็งเจาะตลาดออนไลน์-ผุด ‘อีบุ๊ก’ หาเงินใช้หนี้
องค์การค้าฯ – เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า องค์การค้าฯ เป็นหน่วยงานที่อยู่ในการดูแลของ สกสค.หากองค์การค้าฯ มีภาระหนี้สิน หรือไม่มีสภาพคล่อง จะเป็นปัญหาเรื้อรังมาถึง สกสค.ด้วย เช่น เมื่อเจ้าหนี้ฟ้ององค์การค้าฯ ให้ชำระหนี้สิน จะฟ้อง สกสค.ด้วย จึงเป็นเหตุให้ สกสค.ต้องช่วยเหลือองค์การค้าฯ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ สกสค.ที่มีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน มีมติให้องค์การค้าฯ กู้ยืมเงินจาก สกสค.ไปจ่ายชำระหนี้ค่ากระดาษกับบริษัท ซีเอ เอส เปเปอร์ จำกัด กว่า 200 ล้านบาท โดยองค์การค้าฯ จะผ่อนจ่ายเป็นงวดๆ ซึ่งการกู้ยืมครั้งนี้ ได้ทำสัญญากู้ยืม กำหนดระยะเวลาชำระหนี้ และดอกเบี้ย โดยจะต้องเสร็จสิ้นภายในปี 2564
“ภาพรวมหนี้สิ้นทั้งหมดขององค์การค้าฯ มีกว่า 5,700 ล้านบาท เป็นหนี้สินผูกพันมานานแล้ว ในเวลานี้ต้องค่อยๆ ประคององค์การค้าฯ และดำเนินการผ่อนชำระหนี้ตามกฎหมาย นอกจากนี้ องค์การค้าฯ จะต้องรักษาสภาพคล่องของตัวเองด้วย โดยการลดรายจ่าย ปรับลดค่าใช้จ่ายอื่นๆ บ้าง และช่วงนี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 องค์การค้าฯ จึงให้พนักงานหยุดทำงาน โดยจ่ายเงินเดือนตามกฎหมายแรงงาน 75% แต่ยังไม่มีแผนปรับลดพนักงานลง มีแต่การปรับลดรายจ่าย เช่น ลดค่าโอที เป็นต้น ซึ่งพนักงานเข้าใจ และรับได้ เพราะขณะนี้งานพิมพ์ตำราต่างๆ ลดลง การให้พนักงานหยุดงาน จึงทำให้องค์การค้าฯ ประหยัดเงินได้บ้าง” นายดิศกุล กล่าว
นายดิศกุลกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ องค์การค้าฯ จะต้องหารายได้เสริมจากทางอื่นด้วย เพราะ สกสค.ไม่สามารถหารายได้ช่วยเหลือองค์การค้าฯ ได้ แต่มีหน้าที่ดูแลเรื่องการชำระหนี้สิน เจรจาชำระหนี้ให้องค์การค้าฯ เพื่อช่วยให้องค์การค้าฯ สามารถลืมตาอ้าปากได้บ้างเท่านั้น ยอมรับว่าหนี้สินขององค์การค้าฯ เป็นภาระงานที่หนัก แต่ต้องช่วยเหลือต่อไป ซึ่งองค์การค้าฯ ได้วางแผนเพิ่มรายได้นอกเหนือจากการพิมพ์ตำรา โดยจะตีตลาดออนไลน์ ด้วยการจัดทำตำราเรียนออนไลน์ หรืออีบุ๊ก เพื่อหารายได้เพิ่มเพื่อมาชำระหนี้ด้วย
