‘สงคราม’ หวั่น ‘บิ๊กตู่’ กู้เงิน 5 แสนล้าน แจกพรรคการเมือง สร้างฐานเสียงในพื้นที่
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ (พช.) กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ส่งผลกระทบกับคนไทยทุกคน ประกอบกับการที่รัฐบาลบริหารจัดการวัคซีนล้มเหลว ไม่ให้ความสำคัญเรื่องวัคซีนมากที่ควร และจำกัดให้ประชาชนฉีดวัคซีนที่รับจัดหาให้ หลายรายพบว่าเกิดอาการไม่พึงประสงค์หนักบ้าง เบาบ้างต่างกันไป ที่หนักสุดคือเสียชีวิต รัฐควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นในวัคซีนมากกว่านี้ เพราะวัคซีนคือทางออกของประเทศอย่างแท้จริง เพราะประชาชนต้องการวัคซีน
นายสงครามกล่าวว่า ทุกวันนี้มีคนติดเชื้อมากกว่า 1 แสนคน เสียชีวิตมากกว่า 30 คนต่อวัน รัฐบาลใจดำมากที่มองคนที่เสียชีวิตเป็นเรื่องธรรมดา นิ่งเฉยต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลกู้เงินมหาศาลเพื่อมาใช้จ่าย โดยที่ผ่านมารัฐบาลมาขออนุญาตจากสภาเพื่อออกพระราชกำหนดเงินกู้ 1 ล้านล้าน ที่โดยอ้างว่าจะนำไปช่วยผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี แต่เงินที่กู้มารัฐนำไปใช้ในการสร้างฐานการเมืองมากกว่า นำไปทำถนน หรือขุดลอกคูคลองในพื้นที่ของนักการเมืองพรรครัฐบาล หวังสร้างฐานการเมือง เป็นการใช้เงินซ้ำซ้อนกับงบประมาณรายจ่ายประจำปี ซึ่งรัฐบาลไม่แสดงความจริงใจที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ รัฐปล่อยลอยแพผู้ประกอบการรายย่อย
นายสงครามกล่าวอีกว่า พ.ร.ก.กู้เงิน 500,000 ล้านบาท แต่ว่าที่ผ่านมาเต็มไปด้วยการปกปิดหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ถ้ารัฐบาลเคารพประชาชนก็ต้องสื่อสารและให้ข้อมูลมากกว่านี้ นอกจากนี้ ยังไม่มีอะไรการันตีว่าเงิน 5 แสนล้านบาท ที่จะกู้จะถูกนำไปใช้ถูกทิศถูกทาง เพราะคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินก็ยังใช้ชุดเดิม ไม่มีหน่วยงานหรือกลไกที่จะมาช่วยเร่งรัดการเบิกจ่ายที่เป็นปัญหาใน พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท หากรัฐบาลไม่สามารถชี้แจงได้คงให้ผ่านไม่ได้
“การจะช่วยเหลือผู้ประกอบการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องไม่ตั้งเงื่อนไขที่เป็นกำแพงหนาทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถเข้าถึงเงินกู้ และต้องไม่เลือกปฏิบัติ ช่วยเฉพาะผู้ประกอบการชั้นดี เพราะหากทำเช่นนั้นเงินกู้จำนวน 500,000 ล้านบาท จะล้มเหลวรอบ 2 เพราะไม่สามารถที่จะกู้ชีวิตผู้ประกอบการที่กำลังโคม่าได้ แต่รัฐบาลจะเป็นคนดึงสายออกซิเจนของผู้ประกอบการออก สุดท้ายผู้ประกอบการเอสเอ็มอีก็ไม่สามารถรอดจากวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน” นายสงครามกล่าว
