เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวในที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพชรบูรณ์เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ถึงมาตรการคุมเข้มผู้เดินทางเข้าจังหวัด โดยเฉพาะประเด็นเสียงท้วงติงของชาวเพชรบูรณ์ที่คล้ายถูกเลือกปฏิบัติแบบ 2 มาตรฐาน กรณีกลับบ้านมาเยี่ยมญาติต้องถูกกักตัว 14 ตัว แตกต่างจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าออกจังหวัด โดยมีเพียงแค่ผลตรวจยืนยันปลอดเชื้อไม่เกิน 72 ชั่วโมง และไม่ต้องกักตัว ทำให้ขณะนี้มีโรงแรม/รีสอร์ตในเขาค้อเปิดจองที่พักให้นักท่องเที่ยวเข้าพักแบบเมินคำสั่งจังหวัดเพชรบูรณ์ ว่า ประเด็นนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมาก เข้าใจดีว่าทุกฝ่ายมองเห็นปัญหาตั้งแต่แรกเพื่อให้เศรษฐกิจยังไปได้ แต่ชาวเพชรบูรณ์ส่วนใหญ่คิดว่าเป็นการสร้าง 2 มาตรฐานให้เกิดขึ้น
นายกฤษณ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาจึงมีคำถามว่าหากนักท่องเที่ยวนำเชื้อมาติด ใครจะรับผิดชอบ จนถูกมองไปว่าเอื้อให้กับกลุ่มคนอาชีพเดียวหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าคณะกรรมการทุกคนไม่มองอย่างนั้นอยู่แล้ว แต่มองในภาพรวมเพื่อการขับเคลื่อนจึงให้คณะกรรมการพิจารณาถึงประเด็นนี้ เพื่อไม่ให้ถูกท้วงติงเป็นการเลือกปฏิบัติ หรือ 2 มาตรฐาน และสามารถชี้แจงหรือตอบสังคมได้อย่างชัดเจน
“ที่ผ่านมาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมักเชื่อมโยงพาดพิงถึงนักท่องเที่ยวทั้งนั้น และเป็นคำถามโยงว่าเพชรบูรณ์ให้ความสำคัญกับมาตรการกักตัวและมาตรการป้องกันโรคให้กับคนภายในจังหวัดมากน้อยเพียงใด ซึ่งคนภายในจังหวัดเป็นผู้ตั้งคำถาม ที่สำคัญคือจะสร้างปัญหาระยะยาวหรือไม่ โดยเฉพาะหากมีผู้ติดเชื้อขึ้น” นายกฤษณ์กล่าว
ขณะเดียวกัน นายกฤษณ์ได้สอบถามความคิดเห็นในที่ประชุมว่า หากนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา ต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ เพราะการตรวจเชื้อใน 72 ชั่วโมงก็ไม่ได้ยืนยันจริงๆ ว่าปลอดจากติดเชื้อแล้ว พร้อมย้ำว่า ในภาพรวมทางจังหวัดไม่อยากให้ใครมาตำหนิว่าเราเลือกปฏิบัติ หรือได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียม ซึ่งทางผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวโรงแรม รีสอ์ต ต้องมาทักท้วงตนแน่นอน
จากนั้นนายกฤษณ์ขอให้ที่ประชุมช่วยกันพิจารณาและแสดงความคิดเห็นเพื่อหาข้อยุติ ปรากฎว่าที่ประชุมต่างเห็นพ้องด้วย
นายกฤษณ์ยังกล่าวอีกว่า ภาพที่ปรากฏทางสื่อโซเชียลต่างๆ ไม่ใช่ภาพอย่างที่ทุกคนคิดกัน นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเป็นกลุ่มก้อน 30-40 คน แล้วมีกิจกรรมร่วมกัน มีการนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกัน ไม่ได้รักษามาตรการ ขณะที่ทางโรงแรม รีสอร์ต ก็ไม่ได้รักษามาตรการเช่นกัน ต้องยอมรับว่าทางจังหวัดไม่ได้รับความร่วมมือพอสมควร จนเป็นข้อหนักใจ จึงจำเป็นต้องมีมาตรการออกมา และเท่าที่ติดตามเสียงสะท้อนจากพี่น้องชาวเพชรบูรณ์ที่ผ่านมาก็อยากให้เกิดความสมดุลกันทุกอย่าง แม้จะไม่สมดุลแบบเป๊ะๆ แต่ก็ให้มีเสียงตำหนิให้น้อยที่สุด ฉะนั้น จึงฝากให้ทางอำเภอเขาค้อ, หล่มเก่า และน้ำหนาว ช่วยชี้แจงผู้ประกอบการ และขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันอดทนอีกหน่อย เพราะหลังจากประชาชนได้รับวัคซีนตามเป้าหมายสถานการณ์น่าจะดีขึ้น
ขณะเดียวกัน นายกฤษณ์ขอให้นายอำเภอศรีเทพกำชับด่านคัดกรองที่ อ.ศรีเทพ ให้เข้มงวดผู้ที่จะเดินทางเข้าจังหวัดต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือผู้ที่ได้รับการผ่อนปรนอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด จังหวัดเพชรบูรณ์ได้มีคำสั่งฉบับที่ 1339/2564 ลงวันที่ 15 มิถุนายน 2564 เกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ซึ่งในมาตรการผู้ที่เดินทางเข้าจังหวัด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าจังหวัดเพชรบูรณ์ มีการตัดทิ้งข้อความ “หากมีผลตรวจยืนยันไม่เกิน 72 ชั่วโมงไม่ต้องกักตัว” ออก ขณะเดียวกันยัง ให้โรงแรม รีสอร์ต งดรับนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างจังหวัด ที่ไม่มีการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กำหนด เว้นแต่ผู้ที่ได้รับการผ่อนปรนตามคำสั่งฉบับนี้
พร้อมให้โรงแรม รีสอร์ต ตรวจสอบทำสำเนาใบรับรองการฉีดวัคซีน จัดทำบันทึกรายการผู้เข้าพักรายงานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ โดยในท้ายคำสั่งฉบับนี้ยังแจ้งผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องรับโทษตาม พ.ร.บ.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558
