อุดมศักดิ์ ภัคธนาพงศ์ ผู้สื่อข่าวกีฬาหนังสือพิมพ์ “มติชน” และวันดี รุจินาถ ช่างภาพเครือ “มติชน” รายงานข่าวการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนบีชเกมส์ ครั้งที่ 5 ที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 29 กันยายน มีการชิงชัยทั้งสิ้น 11 เหรียญทอง
ไฮไลท์ของนักกีฬาไทยวันนี้อยู่ที่เซปักตะกร้อชายหาด ชิง 1 ทอง ประเภททีมเดี่ยวชาย (4 คน) รอบรองชนะเลิศ ไทย ชนะ อินโดนีเซีย 2-0 เซต 21-18, 21-7 ก่อนจะเข้าไปพบกับ พม่า ที่ชนะ ลาว มา 2-1 เซต 21-8, 15-21, 21-19
ในรอบชิงชนะเลิศ ทีมไทยส่งคมคิด เสือพิมพา, พักตร์พงษ์ เดชเจริญ, ยศวัจน์ อุทัยจรูญศรี, เสกสรรค์ ทับทอง ก่อนจะเอาชนะพม่าไปได้ 21-8, 21-9 คว้าเหรียญทองสมัยที่ 5 มาครอง หลังจบเกม นายธวัช กุมุทพงษ์พานิช ผู้จัดการทีมทีม กล่าวว่า ไทยเก็บเหรียญทองได้ตามความคาดหมาย ซึ่งมั่นใจว่าน่าจะได้ครบทั้ง 4 ทอง ส่วนตัวเชื่อว่านักกีฬาไทยได้เปรียบคู่แข่งเพราะว่าเราแยกซ้อมระหว่างชุดเอเชี่ยอินดอร์เกมส์กับชุดเอเชี่ยนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ ผิดกับทีมคู่แข่งใช้ชุดเอเชี่ยนอินดอร์ฯ มาเล่นในศึกเอเชี่ยนบีชเกมส์ ทำให้เล่นลำบากเพราะต้องปรับการเล่นให้เข้ากับสนามที่เป็นทราย
ขณะที่ คมคิด เสือพิมพา ผู้เล่นที่คว้าแชมป์ร่วมกับทีมไทยมาตั้งแต่เอเชี่ยนบีชเกมส์สมัยแรก กล่าวว่า ดีใจมากที่คว้าแชมป์สมัยที่ 5 ได้สำเร็จ เกมวันนี้เล่นได้ค่อนข้างยากเพราะมีลมแรง ส่วนเอเชี่ยนบีชเกมส์ ครั้งที่ 6 หากถูกเรียกตัวติดทีมอีกครั้ง ก็พร้อมจะลุยเต็มที่เพื่อเก็บแชมป์สมัยที่ 6 ต่อไป
กรีฑาปิดฉากซิวเพิ่ม2เงิน1ทองแดง
การแข่งขันกรีฑาวันสุดท้าย ชิง 5 ทอง ไทยเก็บเพิ่มได้ 2 เงิน 1 ทองแดง โดยได้เหรียญเงินจาก ปรัชญา เทพรักษ์ ในประเภทเขย่งก้าวกระโดด ชาย ทำสถิติได้ 15.81 เมตร ส่วนเหรียญทองเป็นของเหวียน วาน ฮุง จากเวียดนาม 16.63 เมตร และอีกหนึ่งเหรียญเงินจาก ครอสคันทรี่ ทีมหญิง ไทยประกอบด้วยณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์, วรพรรณ นวลศรี, ธนภรณ์ อัศววงศ์เจริญ, สุณีกา ปรีชาโปร่ง, กมลพร แย้มสี
ส่วนเหรียญทองแดงได้จาก ครอสคันทรี่ ทีมชาย ประกอบด้วย บุญถึง ศรีสังข์, สัญชัย นามเขต, ณัฐวุฒิ อินนุ่ม, ธรรพ์ณธร ไกรยราช, โยธิน ยาประจันทร์
“แฝดเล็ก” พล.ต.ต.ศุภวณัฏฐ์ อาริยะมงคล หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมกรีฑาไทย กล่าวว่า ในการแข่งขันครั้งนี้ ทีมกรีฑาไทยทำได้ทั้งสิ้น 2 ทอง 3 เงิน 4 ทองแดง ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง พอใจกับผลงานที่ออกมา รายการที่ทีมหวังเหรียญไว้ก็ทำได้ รายการที่ทีมคิดว่ามีโอกาสครึ่งๆ ที่ส่งเด็กรุ่นใหม่ๆลงแข่งขัน ก็เก็บเหรียญกลับมาได้เช่นกัน สำหรับเอเชี่ยนบีชเกมส์นั้นเพิ่งมีกรีฑาเป็นครั้งที่ 2 เชื่อว่าครั้งต่อๆ ไป การแข่งขันจะทวีความเข้มข้นขึ้นแน่นอน ดังนั้นต้องเตรียมทีมให้ดีขึ้น
“รายการระดับนานาชาติหลังจากนี้ก็จะเป็นซีเกมส์ ทีมยังต้องเตรียมพร้อมอีกมาก จะส่งไปเก็บตัวในยุโรปและอีกหลายประเทศ ตอนนี้รออนุมัติงบประมาณก่อนจะดำเนินการตามแผนต่อไป” แฝดเล็กกล่าวปิดท้าย
บาสหญิงชิงพ่ายจีนได้เพียงเหรียญเงิน
บาสเก็ตบอล ทรีออนทรี ชิง 2 ทอง ทีมหญิง ไทย รอบก่อนรองชนะเลิศ เอาชนะ มองโกเลีย 15-8 ก่อนที่รอบตัดเชือกจะเอาชนะ เติร์กเมนิสถาน 10-5 ทว่าในรอบชิงชนะเลิศต้านทานความแข็งแกร่งของจีนไม่ไหว พ่ายไป 15-9 ได้เพียงเหรียญเงินเท่านั้น
ส่วนทีมชาย รอบ 8 ทีมสุดท้ายชนะอินโดนีเซีย 15-13 รอบรองชนะเลิศ แพ้กาตาร์ 11-21 เข้าไปชิงอันดับ 3 กับอิหร่าน ก่อนจะพ่ายไป 15-16 ในวินาทีสุดท้าย ชวดเหรียญทองแดงอย่างน่าเสียดาย ส่วนรอบชิงชนะเลิศ กาตาร์ ชนะมองโกเลีย 15-13
หลังเกม “เฮียต่าย” นายนิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร ผู้จัดการทีมบาสเก็ตบอลไทย กล่าวว่า เสียดายทีมชายอย่างมาก เพราะเหลืออีกเพียงนิดเดียวจะได้เหรียญทองแดงแล้ว ส่วนทีมหญิงนั้นการเจอกับจีนในรอบชิงชนะเลิศถือว่าเป็นเรื่องยาก พอใจกับผลงานของทีม แต่ต้องกลับไปปรับปรุงแก้ไขโดยเฉพาะเรื่องของลูกโทษ ที่มีโอกาสมากแต่ทำไม่ได้
‘พายเรือ-วู้ดบอล’ช่วยเก็บคนละทอง
พายเรือชายหาด ชิง 2 ทอง ไทยได้เหรียญทองจาก กรรเชียงชายหาด 2 คนหญิง สาวิตรี หลักสูงเนิน-เมธินี ระรื่น ที่ช่วยกันพายทำเวลาได้ 3.14.33 นาที เอาชนะคู่ฮ่องกงในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งทำเวลา 3.38.14 นาที และได้อีก 1 ทองแดงจาก กรรเชียงชายหาด 2 คนชาย สมพร เมืองโคตร กับสิฏฐกาญจน์ ไพศาลวรรณ เวลา 2.51.08 นาที
นอกจากนี้ ไทยยังได้ทองเพิ่มจาก วู้ดบอล ที่ชิง 1 ทอง เป็นการแข่งขันแบบนับจำนวนเกท ประเภททีมชาย เกียรติศักดิ์ แสงฤทธิ์, นคร นวลรักษา, ณัฐชนน กองพลพรหม และ เพชรอนันต์ พรเสน่ห์ ที่ช่วยกันเอาชนะ ทีมจีน ในรอบชิงมาได้ 3-0 เกท
ตบชายหาดหญิงชนกันเองรอบก่อนรองฯ
วอลเลย์บอลชายหาด รอบ 16 ทีมสุดท้าย ทีมหญิง รำไพพฤทธิ์ นุ่มวงศ์-ขนิษฐา หงษ์พักตร์ ชนะ ซามาลิโควา บัคห์ติกัล-นิคิตินา ทัตยานา (คาซัคสถาน) 2-0 เซต 21-12, 21-9 ขณะที่คู่ของ วรภัสสร รดาวงศ์-ธนะรัศมิ์ฐา อุดมฉวี เอาชนะ เล ธิ บิช ไว-ทู ธิ ธู วัน (เวียดนาม) 2-0 เซต 21-16, 21-10 โดยทั้งสองทีมจะเข้าไปพบกันเองในรอบ 8 ทีมสุดท้าย
ด้านทีมชาย ณัฐนนท์ อินเขียว-เศรษฐวรรษ เพชรสวัสดิ์ เอาชนะ อาบิ เชดิด-เอล อัซซี (เลบานอน) 2-0 เซต 21-14, 21-12 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับ อเด รัชมาวาน-จิลาง รามาดาน จากอินโดนีเซีย ส่วนประทีป สุขโต-อดิษร เขวาลำธาร พ่าย หว่อง ปุย แลม-เควิน เลา (ไต้หวัน) 1-2 เซต 15-21, 21-12, 12-15 ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
บอลชายหาดพ่ายโอมานร่วง8ทีม
ด้านฟุตบอลชายหาด รอบก่อนรองชนะเลิศ ไทย พ่ายให้กับ โอมาน 1-4 โดยโอมานนำห่าง 0-4 จากอัล ซาดจารี่ นูห์ นาทีที่ 8 กับ 30, อัล โอไรมี่ คาห์ลิด นาทีที่ 20 และอัล โอไรมี่ ยาย่าห์ นาทีที่ 31 ส่วนไทยได้ประตูตีไข่แตกจากปิยะพงษ์ สองผิว นาทีที่ 32
หลังเกมการแข่งขัน นายรุ่งโรจน์ บุญยทรัพยากร ผู้จัดการทีม กล่าวว่า รู้สึกผิดหวัง เพราะว่าเกมนี้ไทยเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน น่าจะทำได้ดีกว่านี้ การเสียประตูแรกทำให้ทุกอย่างรวนไปหมด จากนี้ฟุตบอลชายหาดไทยยังมีโปรแกรมไปแข่งขันชิงแชมป์โลก รอบคัดเลือกช่วงต้นปีหน้า แต่ยังไม่ทราบโปรแกรมที่แน่ชัดว่าแข่งที่ไหน เมื่อไหร่ ส่วนตนนั้นยังอยากอยู่ช่วยทีมต่อไป แต่ต้องดูเงื่อนไขและอะไรหลายๆ อย่างก่อน เพราะหากให้ตนดูแลคนเดียวคงไม่ไหว
‘บิ๊กต้อม’ชี้เพาะกายเป็นเรื่องของสหพันธ์
หลังจากที่การแข่งขันเพาะกาย เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ปรากฎว่าในรุ่นส่วนสูง 172 ซม. เอกพล สุขทอง นักกีฬาไทยถูกเจ้าหน้าที่ดึงลงจากเวที ระหว่างที่กำลังทำการแข่งขัน ขณะที่รุ่นส่วนสูง 180 ซม. อนัส ภู่มีสุข ก็ถูกปรับไม่ให้ลงแข่งขันเช่นกัน เนื่องจากฝ่ายจัดการแข่งขันตัดสิทธิ์นักกีฬาไทยด้วยเหตุผลว่าตรวจพบสารต้องห้าม โดยที่ไม่ได้มีเอกสารยืนยันออกมาอย่างเป็นทางการ ทำให้นักกีฬาไทยพลาดโอกาสในการแข่งขันนั้น
ล่าสุด “บิ๊กอ๊อด” พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ได้ทราบเรื่องแล้ว และได้บอกให้ นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ดำเนินการตามกระบวนการ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนักกีฬาไทย
“เรื่องของสารต้องห้ามเป็นเรื่องที่เตือนอย่างหนักก่อนจะเดินทางมาแข่งขัน ซึ่งทุกสมาคมฯนั้นทราบกันดีอยู่แล้ว ถ้าหากตรวจพบจริงคงไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่ถ้าหากถูกปรักปรำก็ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด” บิ๊กอ๊อด กล่าวปิดท้าย
ขณะที่นายธนา กล่าวว่า เรื่องนี้ได้แจ้งให้กับคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) แล้ว แต่ทางโอซีเอแจ้งกลับมาว่าตามหลักแล้วทั้งโอซีเอ และคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย มีอำนาจเพียงช่วงก่อนมาทำการแข่งขันเท่านั้น หลังจากนั้นเป็นหน้าที่ของสหพันธ์กีฬานั้นๆ เป็นผู้ดูแล ในเรื่องของระเบียบการแข่งขันต่างๆ จึงไม่สามารถช่วยอะไรได้ ซึ่งทางไทยก็พยายามขอเอกสารแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับเช่นกัน จึงได้แจ้งให้กับทางนายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ให้รับทราบเรียบร้อย
“เบื้องต้นที่ทราบมา สมาคมสหพันธ์เพาะกายเอเชีย (เอเอฟบีเอฟ) เป็นสหพันธ์ที่จัดการแข่งขันครั้งนี้ แต่ว่าของไทยนั้นขึ้นตรงกับสหพันธ์เพาะกายแห่งเอเชีย (เอบีบีเอฟ) ซึ่งอาจจะเป็นที่มาของปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนั้นสมาคมจะต้องไปจัดการปัญหากับสหพันธ์ที่จัดการแข่งขันนี้เอง” นายธนากล่าวปิดท้าย
เพาะกายยันบริสุทธิ์เตรียมหาหลักฐานสู้
นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นน่าสงสัย เพราะอย่างเอกพลนั้นก็ได้ลงแข่งขันในรอบคัดเลือก และไม่ได้มีปัญหาใดๆ แต่กลับมามีปัญหาในรอบชิงชนะเลิศแทน แถมโดนดึงลงจากเวทีอีกด้วย
“การกระทำครั้งนี้ เป็นการหักหน้าประเทศไทย ซึ่งนักกีฬาของเราทั้ง 7 คนผ่านการตรวจสารกระตุ้นมาจากทางการกีฬาแห่งประเทศไทย เพราะฉะนั้นขอยืนยันว่านักกีฬาของเราบริสุทธิ์ เราจะกลับไปตรวจสารกระตุ้นกับทางการกีฬาแห่งประเทศไทยในวันที่ 30 กันยายน ทันทีเพื่อเอาหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์” นายศุกรีย์ กล่าวปิดท้าย
เจ้าภาพยังนำไทยตารางเหรียญ
ไทยเก็บเพิ่มได้ 3 ทอง แต่ทว่าเจ้าภาพที่เก็บได้ 3 ทอง ยังคงรักษาระยะห่างกับไทยเอาไว้ได้
สรุปเหรียญ (ทอง-เงิน-ทองแดง) 1.เวียดนาม (31-26-31) 2.ไทย (27-17-22) 3.จีน (10-13-14) 4.อิหร่าน (5-2-2) 5.จอร์แดน (4-4-5) 6.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (4-2-3) 7.กาตาร์ (3-0-1) 8.มองโกเลีย (2-4-5) 9.คาซัคสถาน (2-3-3) 10.ฟิลิปปินส์ (2-1-12) 10.อุซเบกิสถาน (2-1-0)
