“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย เปิดราชมังคลากีฬาสถาน รับการมาเยือนของ “เศรษฐีน้ำมัน” ซาอุดีอาระเบีย ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่มบี นัดที่ 6 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม
บรรยากาศก่อนเกมการแข่งขันเริ่มมีแฟนบอลทยอยเดินทางมายังราชมังคลากีฬาสถานตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นต้นมา โดยแฟนบอลส่วนหนึ่งได้เข้าไปยังร้านค้าของวอริกซ์ บริเวณสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อเลือกซื้อชุดแข่งขันใหม่ของทีมชาติไทย ก่อนที่นักเตะทีมชาติไทยจะเดินทางมาถึงสนามแข่งขันในเวลา 16.00 น. เพื่อสักการะศาลพระภูมิหน้าราชมังคลากีฬาสถานเพื่อเอาฤกษ์เอาชัยก่อนทำการแข่งขัน
เกมนี้ “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย จัดตัวแบบเซอร์ไพรส์แฟนบอลเล็กน้อย โดยมาในระบบ 3-1-4-2 นำโดยผู้รักษาประตู กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เซนเตอร์แบ๊ก 3 คน ประกอบด้วย ประทุม ชูทอง, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ อดิศร พรหมรักษ์ วิงแบ๊กซ้ายเป็น “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีม วิงแบ๊กขวา ทริสตอง โด มิดฟิลด์คู่กลางใช้ จักรพันธ์ แก้วพรม เล่นคู่กับ ปกเกล้า อนันต์ โดยให้ “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นเพลย์เมกเกอร์สนับสนุนคู่กองหน้า “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กับ “ปีโป้” สิโรจน์ ฉัตรทอง
ด้าน เบิร์ก ฟาน มาร์ไวก์ กุนซือชาวดัตช์ของซาอุดีอาระเบีย จัดทัพนำทีมโดยไทเซียร์ อัล ยัสซัม กองกลางกัปตันทีม, โมฮัมเหม็ด อัล ชาห์ลาวี และนาวาฟ อลาบิด จอมสังหารจุดโทษของทีม ที่ซัดไปแล้วในรอบนี้ 4 ประตู โดยเป็นจุดโทษถึง 3 ลูกด้วยกัน
เริ่มมาได้ 9 นาที เป็นซาอุดีอาระเบียที่มีโอกาสหวาดเสียวก่อนจากจังหวะที่อัล ชาห์ลาวี หลุดไปถึงเส้นหลังก่อนเปิดกลับเข้ามา ยังดีที่อดิศรช่วยสกัดออกไปได้ทัน
จนกระทั่งนาทีที่ 26 เป็นฝั่งซาอุดีอาระเบีย ที่ได้ประตูออกนำไปก่อน จากจังหวะที่นาวาฟ อลาบิด เปิดบอลให้ อัล ชาห์ลาวี หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงผ่านตัวกวินทร์ ทำให้ผู้มาเยือนออกนำก่อน 1-0
ไทยเริ่มครองเกมมากขึ้น จนได้โอกาสครั้งแรกในนาทีที่ 41 จากจังหวะโต้กลับที่ธีรศิลป์ พาบอลขึ้นมาก่อนจ่ายให้กับสิโรจน์ ลองซัดบริเวณกรอบเขตโทษด้านซ้าย บอลพุ่งหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว ทำให้จบครึ่งแรกไทยตามหลังอยู่ 0-1
ครึ่งหลังไทยมีการปรับแผนการเล่นกลับมาใช้กองหลัง 4 คน โดยส่งพีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ลงมาเล่นแทนประทุม ชูทอง และให้ขึ้นเกมรุกทางด้านซ้ายร่วมกับธีราทร และเริ่มเปิดเกมรุกใส่ ก่อนจะมีโอกาสครั้งแรกจากการยิงบริเวณกรอบเขตโทษของชนาธิป แต่บอลเรียดเข้ามือนายทวารซาอุดีอาระเบียไป
จากนั้นนาทีที่ 63 ไทยเปลี่ยนตัวอีกครั้งส่งชาริล ชัปปุยส์ ลงมาเล่นแทนจักรพันธ์ และส่งอดิศักดิ์ ไกรษร ลงมาแทนสิโรจน์
ไทยตกที่นั่งลำบากเมื่อนาทีที่ 83 ต้องเสียประตูที่สองจากจังหวะที่มานซูร์ อัล ฮาร์บี้ แบ๊กซ้ายซาอุฯ เปิดบอลเข้ามาแล้วเป็นธนบูรณ์ สกัดพลาด เข้าประตูตัวเองไป ทำให้ไทยตามหลัง 0-2
ก่อนที่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซาอุดีอาระเบียจะมาได้ประตูปิดท้ายจาก ซาลมาน มูวาชาร์ จบเกมซาอุดีอาระเบียบุกมาชนะไทย 3-0
ส่วนผลอีกคู่หนึ่ง อิรัก เสมอ ออสเตรเลีย 1-1 ทำให้ไทยยังคงรั้งบ๊วยของกลุ่ม โดยมีเพียง 1 คะแนน จาก 6 นัด โอกาสไปฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย เหลือน้อยเต็มที
