วันแรกที่พสกนิกรจะได้เข้าไปกราบพระบรมศพถึงในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทอันเป็นที่ตั้งพระบรมโกศ ดังที่สำนักพระราชวังประกาศเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2559 เรื่องการถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ปรับเปลี่ยนเป็นวันที่ 29 ตุลาคม เวลา 09.00-16.00 น. เป็นต้นไป
สัปดาห์ก่อน ว่าถึงการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยกระบวนพยุหยาตราสถลมารค เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2506 ซึ่งข้าพเจ้าขณะเรียนที่วิทยาลัยครูสวนสุนันทา ชวนเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่เรียนด้วยกันไปชมกระบวนบริเวณหัวมุมถนนสิบสามห้าง บางลำพู
ครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯโดยกระบวนพยุหยาตรา (ใหญ่) สถลมารคจากพระบรมมหาราชวังไปทรงถวายเครื่องสักการบูชาปูชนียวัตถุสำคัญที่วัดบวรนิเวศวิหารเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 3 รอบ
กระบวนพยุหยาตรา (ใหญ่) สถลมารค จัดเป็นกระบวนสำหรับพระมหากษัตริย์เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเสด็จพระราชดำเนินในการพระราชพิธีสำคัญ
ทั้งนี้ เพื่อให้อาณาประชาราษฎร์ที่ไม่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในพระราชวังได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯชมพระบารมี และมีโอกาสสำแดงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่
อีกครั้งหนึ่ง มีโอกาสไปชมกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวราราม เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2539 พร้อมกับครอบครัว ขณะนั้นร้านอาหารต้นโพธิ์ ท่าพระอาทิตย์ มี นายปรีชา เนตรประภา เป็นผู้จัดการร้านจัดตั้งเก้าอี้ให้ลูกค้าสั่งจองที่นั่งเพื่อชื่นชมกระบวนพยุหยาตราทางชลมารคผ่านหน้าร้าน
การเสด็จพระราชดำเนินทอดพระกฐินทางชลมารคครั้งนั้น เป็นการเสด็จฯโดยเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ ที่ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นแทนเรือนารายณ์ทรงสุบรรณลำก่อนที่ทรุดโทรม โดยเรียกว่าเรือพระนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 มาเป็นเรือเอกลำแรก ทำให้เรือสุพรรณหงส์ซึ่งเดิมเคยเป็นเรือเอกมาตลอดกลายเป็นเรือรองแล่นตามหลัง
ระหว่างรอชมกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ยังไม่มีวี่แววว่าฝนฟ้าจะตกลงมา คุณราตรี บัวประดิษฐ์ หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี (ขณะนั้น) เล่าว่า เมื่อนำเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์แล่นในแม่น้ำเจ้าพระยาออกตามหลังเรือนารายณ์ทรงสุบรรณได้สักพัก จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น คือเกิดพายุลมแรงโดยที่ไม่มีวี่แววของฝนตั้งเค้าพัดมาที่เรือสุพรรณหงส์ ขณะเรือลำอื่นยังแล่นได้ตามปกติ แล้วเรือสุพรรณหงส์ก็เบนหัวเรือเหมือนจะกลับอู่อยู่ท่าเดียว
“ทั้งๆ ที่เหล่าฝีพายซึ่งล้วนฝีมือดีพยายามจะตั้งลำให้แล่นในแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ไม่เป็นผล เรือไม่ยอมไปตาม จนสุดท้ายเมื่อเรือเกือบล่ม เหล่าฝีพายต้องนำเรือกลับเข้าอู่เรือพระราชพิธี” คุณราตรีเล่าเผยแพร่ในวิกิพีเดีย ยังพอจะค้นหาอ่านได้
อีกคนหนึ่ง ไม่ปรากฏนามเล่าผ่านวิกิพีเดียเช่นกันว่า เป็นครั้งแรกที่ประทับเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ “ผมสนใจจึงไปรอดูขบวนเสด็จฯบนตึกสูงริมแม่น้ำ”
ก่อนเวลาเสด็จฯเล็กน้อย พายุฝนตั้งเค้าดำทะมึน แสดงว่าอั้นไม่อยู่แน่ ฝนเริ่มตกโปรยปรายแถวท่าเตียน ลมกระโชกแรงมาทางที่ผมเฝ้าดูอยู่ด้วยใจระทึก ซึ่งขณะนั้นดูทีวีถ่ายทอดสดไปด้วย
“พอสายฝนโปรยมาถึงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จลงเรือพระที่นั่งที่ท่าวาสุกรี แดดยังแจ่มอยู่ พอประทับเรียบร้อยออกมาตั้งลำกลางแม่น้ำ ทั้งพายุทั้งฝนโหมกระหน่ำแบบลืมหูลืมตาไม่ขึ้น ภาพในทีวีและเสียงพากย์หากท่านผู้ใดดูอยู่ คงจำได้ว่าทำให้เกิดระทึกใจเพียงใด..แต่คงไม่ได้เห็นภาพจริง…เช่นที่ผมมองเห็นจากที่สูง…
“ในม่านฝนนั้นขบวนเรือพระราชพิธีโดนพายุกระหน่ำแทบไม่เป็นกระบวน” ผู้ไม่เอ่ยนามเล่าไว้อย่างนั้น
ผมกับครอบครัวและผู้ร่วมชมที่ร้านต้นโพธิ์ต่างอกสั่นขวัญแขวน-เหตุเป็นอย่างไรขอต่อสัปดาห์หน้า
