เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการปฏิรูปตำรวจ ชุดคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม(ตำรวจ) ที่มี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธาน กล่าวถึงการปฏิรูปตำรวจที่ขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ โดยมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน และอาจไม่ใช้แนวทางตามที่ชุด พล.อ.บุญสร้างเสนอว่า ในชุดแรกได้สรุปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนนายมีชัยจะตั้งชุดใหม่ก็เป็นสิทธิของท่านอยู่แล้ว ไม่ได้มองว่าการปฏิรูปตำรวจไปไม่ถึงไหน แต่นายมีชัยคงมีแนวคิดอีกอย่าง ที่คงนำมาปรับใช้กับแนวทางชุด พล.อ.บุญสร้างได้ อันไหนที่ดีอยู่แล้วตามที่ชุด พล.อ.บุญสร้างเสนอ หรืออันไหนขาดตกบกพร่องไปก็สามารถปรับแก้ไขได้
เมื่อถามว่า มีการระบุว่าฉบับ พล.อ.บุญสร้างเป็นฉบับเกรงใจตำรวจ ส่วนหนึ่งมีตำรวจเป็นกรรมการอยู่กึ่งหนึ่ง ทำให้แนวทางการปฏิรูปตำรวจที่ออกมาไม่ตรงใจรัฐบาล ผบ.ตร.กล่าวว่า สัดส่วนคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม(ตำรวจ) ถูกกำหนดไว้แบบนั้น มีตำรวจเป็นกรรมการด้วย ซึ่งตำรวจที่เป็นกรรมการไม่ได้เสนอขัดแย้งอะไรมากมาย เสนอความคิดเห็นของใครของมันในนั้น กรรมการใหญ่จะรับหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง ตำรวจไม่มีสิทธิไปโน้มน้าวกรรมการส่วนอื่นๆ หรอก แต่ละประเด็นมีการถกในคณะอนุกรรมการ ก่อนเข้ากรรมการชุดใหญ่ และยอมรับในกติกาในทุกข้อที่คุยกัน ก็ไม่ทราบว่าทำไมถึงเรียกว่าฉบับเกรงใจตำรวจ ยืนยันว่ากรรมการที่เป็นตำรวจในชุด พล.อ.บุญสร้างไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามถึงกรณีที่กรรมการชุดนายมีชัยออกมาระบุว่าต้องดำเนินการโอนงานจราจรให้ กทม. เทศบาลต่างๆ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ไม่ได้ขัดแย้งกับใคร ในกรรมการชุดตนก็มีการพูดคุยเรื่องการโอนงานจราจรให้ กทม. ในคณะอนุกรรมการที่มีนายมนุชญ์ วัฒนโกเมร เป็นประธานก็เสนอประเด็นนี้ เราคุยทุกมิติอยู่แล้ว ก็สามารถทำได้ หากชุดของนายมีชัยทำได้ อย่างไรก็ตามตนไม่ก้าวล่วงการทำงานของชุดนายมีชัย ตอนเป็นกรรมการก็ทำหน้าที่ดีที่สุด การปฏิรูปตำรวจทำอย่างไรก็ได้ขอให้ประชาชนได้ประโยชน์จากการปฏิรูป ก็รับสภาพได้ ยอมรับได้ ส่วนที่มีตำรวจในราชการ คือ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร.ร่วมเป็นกรรมการในชุดของนายมีชัยเพียงคนเดียวก็ไม่เป็นไร ไม่น้อยไป จริงๆ ไม่อยากให้มีตำรวจอยู่เลยด้วยซ้ำ จะได้แฟร์ เดี๋ยวบอกว่ามีตำรวจเกี่ยวข้องอีก
