เมื่อวันที่ 24 กันยายน นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) กังวลกรณีที่ไม่ได้มีการเปิดสอบคัดเลือกรองผู้อำนวยการโรงเรียนทั่วประเทศ มานานกว่า 2 ปี เมื่อมีผู้เกษียณอายุราชการ ทำให้ขาดผู้บริหารโรงเรียน ต้องแก้ปัญหาโดยการให้ครูมารักษาการในตำแหน่งบริหารแทนนั้น ตนทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยได้เสนอให้คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) พิจารณาปรับหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกผู้อำนวยการโรงเรียนและรองผู้อำนวยการโรงเรียนไปตั้งแต่ 3 เดือนที่แล้ว โดยทางก.ค.ศ. ขอกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ ให้ผู้ที่จะเข้าสอบคัดเลือกต้องเข้ารับการพัฒนาก่อนการสมัครสอบคัดเลือก ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จึงขอให้เปลี่ยนเป็นว่าขอให้สมัครก่อน เมื่อได้รับการคัดเลือกแล้ว ค่อยเข้ารับการพัฒนาในภายหลัง ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ที่การพิจารณาของก.ค.ศ. ต้องรอก.ค.ศ. พิจารณา
“วันที่ 30 กันยายนนี้ ผมจะเกษียณอายุราชการ พยายามทำให้ดีที่สุด โดยได้ดำเนินการจัดสอบทุกอย่างเพื่อให้แต่ละหน่วยงานมีบุคลากรมาทำงานครบ งานเดินหน้าไปได้ไม่สะดุด เหลือเพียงการสอบผู้อำนวยการโรงเรียน กับรองผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งติดที่ข้อกฎหมายของก.ค.ศ. จากนี้จะดำเนินการสอบได้เมื่อไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของก.ค.ศ. แต่ส่วนตัวก็อยากให้เร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด” นายสุเทพกล่าว
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ให้แต่ละจังหวัด ดูแลเรื่องการคัดเลือกครู และผู้บริหารในพื้นที่เองนั้น ปัจจุบันคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) จัดสอบเองอยู่แล้ว แต่ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ก.ค.ศ. กำหนด ซึ่งถือว่า เป็นเรื่องดีเพราะพื้นที่จะรู้ว่าจะบริหารจัดการอย่างไร
ด้านน.ส.อุษณีย์ ธโนศวรรย์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กล่าวว่า สพฐ. เสนอหลักเกณฑ์และตัวชี้วัดในการสอบคัดเลือกผู้อำนวยการโรงเรียน และรองผู้อำนวยการโรงเรียนมาให้ก.ค.ศ. พิจารณาแล้ว รวมถึงกรณีที่ขอให้มีการเปลี่ยนการพัฒนาตัวเองก่อนสมัคร มาเป็นพัฒนาหลังสอบคัดเลือกได้ ซึ่งทั้งหมดต้องเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ก.ค.ศ. ที่มีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พิจารณา โดยจะต้องดูนโยบายของรัฐมนตรีว่าการศธ. ด้วย ส่วนทางก.ค.ศ. เองจะเร่งดำเนินการทุกอย่างให้เร็วที่สุด
