ผ่านบทพิสูจน์ก้าวแรกในเวลาเพียงไม่นานสำหรับ อัลบาโร่ โมราต้า ศูนย์หน้าวัย 23 ปีกับการเป็นดาวยิงความหวังอันดับหนึ่งทัพ “กระทิงดุ” สเปน อดีตแชมป์ยูโร 3 สมัย และแชมป์โลกปี 2010 หลังซัด 2 ประตูพาทีมถล่ม “ไก่งวง” ตุรกี 3-0 ในศึกยูโร 2016 รอบแรก กลุ่มดี พร้อมเก็บ 6 แต้ม และทะลุเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายสำเร็จ
ทัพกระทิงดุต้องขาดดาวยิงเบอร์หนึ่งอย่าง ดาบิด บีญ่า ที่อำลาทีมชาติด้วยวัยอันล่วงเลยหลังจบศึกเวิลด์คัพ 2 ปีก่อน ทำให้ บีเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือทีมสเปนตามหาตัวตายตัวแทนจนกระทั่งเลือกโมราต้าเป็นศูนย์หน้าหลักในยูโรครั้งนี้
โมราต้าเป็นอดีตเด็กปั้น รีล มาดริด ยอดทีมแห่งลาลีก้า แต่ไม่สามารถสอดแทรกแย่งตัวจริงจากแข้งซุปเปอร์สตาร์ที่มีอยู่ล้นทีมได้ จึงตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม ยูเวนตุส ด้วยค่าตัว 20 ล้านยูโร เมื่อปี 2014
อดีตเด็กปั้นราชันชุดขาวมีส่วนสำคัญในการพาทัพม้าลายเถลิงแชมป์กัลโช่ ซีเรีย อา และแชมป์โคปา อิตาเลีย 2 สมัยติดกัน เมื่อปี 2015, 2016 รวมถึงพาทีมคว้ารองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 2015 จนได้รับโอกาสเป็นหัวหอกเบอร์หนึ่งของสเปน
ย้อนกลับไปโมราต้าเคยพาทัพกระทิงดุชุดเล็กคว้าแชมป์ยุโรปถึง 2 ครั้งในศึกยูโร ยู-19 ปี 2011 และยูโร ยู-21 ปี 2013 พร้อมกับติดทีมยอดเยี่ยม และคว้ารางวัลดาวซัลโวได้ทั้ง 2 ทัวร์นาเมนต์จากการยิง 6 และ 4 ประตูตามลำดับ จึงเหลือเพียงแชมป์ยูโรชุดใหญ่เท่านั้นที่เขายังทำไม่สำเร็จ
โมราต้าเพิ่งลงเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่เพียง 11 นัด และยิง 5 ประตู ซึ่งยังเหลือเวลาอีกนานให้เขาทุบสถิติดาวยิงสูงสุดของบีญ่าที่เคยยิงไว้ 59 ประตูจาก 97 นัด โดยในยูโร 2016 เชื่อว่าโมราต้าจะตามรอยสู่การเป็นดาวยิงประจำทัวร์นาเมนต์ พร้อมคว้าแชมป์ร่วมกับทัพสเปน…
เพื่อพิสูจน์ว่าเขาพร้อมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นดาวยิงเบอร์หนึ่งของสเปนอย่างเต็มตัว
