| ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
|---|
ที่คิดว่าจะเป็นเรื่องเล็ก
อาจจะไม่เป็นเรื่องเล็กอย่างที่คิด
กรณีการร้องเรียนของพรรคไทรักธรรมที่ร้องเรียนว่า การประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ (ครั้งที่ 2) ของ กกต.เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2562
ซึ่งทำให้ ส.ส.หนึ่งเดียวของพรรคไทรักธรรมหลุดจากตำแหน่ง แม้จะยื่นคำร้องคัดค้านแล้วถึง 7 รอบ
ก็ไม่มีผลเปลี่ยนแปลง
การแถลงของเลขาธิการ กกต.ที่ระบุว่า
เหตุดังกล่าวเป็นเพราะคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งบางแห่งไม่ได้นำผลคะแนนเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้งและนอกราชอาณาจักร มารวมด้วย
นำมาซึ่งปฏิกิริยาและคำวิจารณ์
ทางหนึ่ง “นักร้องขาประจำ” อย่าง นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ระบุว่า
การยอมรับดังกล่าวขัดหรือแย้งต่อผลการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2562 และผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2562
ซึ่งไม่เป็นไปตาม มาตรา 123 พ.ร.ป.การเลือกตั้ง ส.ส.2561
สมาคมจึงจะร้องเรียนกล่าวโทษ กกต.และเลขาธิการ กกต.ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ทางหนึ่ง “ใบตองแห้ง” คอลัมนิสต์การเมืองผู้แหลมคม เขียนเอาไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า
คำชี้แจงของ กกต.คือการ “เพิ่งยอมรับ” หลังผ่านมาเกือบ 3 เดือน ว่าคะแนนเลือกตั้งที่ประกาศเมื่อวันที่ 28 มี.ค.2562 ไม่ถูกต้อง “นับผิด”
…เพื่อให้ความเป็นธรรมกับ กกต. ผมช่วยยืนยันว่า คะแนนเปลี่ยนทุกพรรคนะครับ
ผมทดลองเอาคะแนนวันที่ 28 มี.ค. ลบออกด้วยคะแนนเขต 8 เชียงใหม่ แล้วเทียบกับคะแนนวันที่ 8 พ.ค. ปรากฏว่าเพิ่มขึ้นทุกพรรค
เช่น อนาคตใหม่ คะแนนวันที่ 28 มี.ค. 6,265,950 คะแนน เขต 8 เชียงใหม่ 29,556 พอประกาศวันที่ 8 พ.ค. 349 เขต ไม่นับเขต 8 เชียงใหม่ ควรจะเหลือ 6,236,394
ปรากฏว่าเพิ่มเป็น 6,254,726
แต่ปัญหาคือ
1.กกต.ไม่เคยบอกเลยก่อนหน้านี้ ว่าคะแนนที่ประกาศเมื่อวันที่ 28 มี.ค. “นับผิด” จนกระทั่งพรรคไทรักธรรมทักท้วง (ยื่นหนังสือไป 7 ครั้ง) จึงเพิ่งจะออกมายอมรับ
2.คะแนนที่ประกาศเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ “นับผิด” คือการประกาศว่า ใครชนะ ส.ส.เขต
จากนั้นวันที่ 7 พ.ค. กกต.ก็ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.เขต ตามผลคะแนนวันที่ 28 มี.ค.นั้น โดยไม่ประกาศคะแนนใหม่
ถามว่า เมื่อคะแนนวันที่ 28 มี.ค. คุณยอมรับเองว่า “นับผิด” แล้วจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงผู้ชนะผู้แพ้ในแต่ละเขตเลยหรือ
ในเมื่อบางเขตชนะกันไม่กี่สิบคะแนน ไม่กี่ร้อยคะแนน
หรืออาจไม่เปลี่ยน แต่เข้ามาใกล้กันมาก
แต่ กกต.ก็ไม่ยักประกาศคะแนนที่นับใหม่
3.กกต.จะต้องประกาศคะแนนรายเขตใหม่ ว่าเปลี่ยนแปลงไปจากวันที่ 28 มี.ค.อย่างไร โดยจะต้องประกาศด้วยว่าเขตไหน ที่นับผิด
4.ทุกพรรคทวงถามมานาน ให้ กกต.ประกาศคะแนนรายหน่วย เพื่อที่จะเอาไปตรวจเช็กได้ ว่าตรงกับที่แต่ละพรรคเก็บหลักฐานไว้หรือไม่ กกต.ก็ไม่ยอมประกาศเลย มาวันนี้ ยอมรับว่าตัวเองนับผิดในส่วนคะแนนล่วงหน้า, นอกเขต
จะให้ไว้วางใจได้อย่างไร ว่าคะแนนรายหน่วยไม่ได้นับผิดด้วย
ประเด็นหลักก็อยู่ตรงนี้นี่เอง
ประการแรก การ “นับผิด” ของ กกต.จะมีผลเปลี่ยนแปลงในแต่ละเขตการเลือกตั้งหรือไม่
ในเมื่อจำนวนเขตที่มีการแพ้ชนะกันระดับสิบ ร้อย หรือพันคะแนนในครั้งนี้ มีจำนวนหลายสิบเขต
ตัวอย่างเช่น อนาคตใหม่พรรคเดียว แพ้ชนะคู่แข่งมาก/น้อยกว่า 3,000 คะแนน 22 เขต
ในสถานการณ์ “ปริ่มน้ำ” อย่างนี้ ผลพลิกผันเพียงแค่ไม่กี่เขต
ก็อาจพลิกโฉมหน้าการเมืองได้
ประการต่อมา ต่อให้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในผลการเลือกตั้ง
ท่าที “อึมครึม” ของ กกต. ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งจนถึงปัจจุบัน
นอกจากไม่ได้ทำให้ความน่าเชื่อถือศรัทธาเพิ่มขึ้นแล้ว
ยังส่งผลในทางตรงกันข้ามด้วย
ในการแข่งขัน ถ้าผู้เล่น-ผู้ชมไม่เชื่อใจในกติกาและกรรมการ
ลองนึกดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นตามมา
