ความสนุก ความมัน ความดุเดือด ของวงการขนไก่ไทยจะกลับมาให้แฟนกีฬาได้ร่วมลุ้นและเชียร์นักแบดมินตันของไทยกันอีกครั้งแล้ว กับศึก “เอสซีจี ออลไทยแลนด์ แบดมินตัน แชมเปี้ยนชิพส์ 2019” ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมเงินรางวัล 1,020,000 บาท
ศึกชิงความเป็นหนึ่งบนคอร์ตของกีฬาลูกขนไก่ไทย ปีนี้จัดขึ้นที่ศูนย์ฝึกแบดมินตัน และวิทยาศาสตร์การกีฬา ถนนนางลิ้นจี่ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 2-6 ตุลาคม โดยในรอบชิงชนะเลิศวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม จะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่าน Facebook Live แฟนเพจ SCG Sport ตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไปด้วย
ความเข้มข้นในสนามปีนี้ เมื่อเห็นชื่อยอดฝีมือในแต่ละประเภทแล้ว รับรองว่า ดีกรีความมันอยู่ในระดับห้าดาวแน่นอน
เริ่มจากประเภทชายเดี่ยว “โอ๊ต” สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ แชมป์เก่าปีที่แล้วจากเอ็นจอยทีม ที่ฝีมือกำลังดีวันดีคืนในสังเวียนขนไก่โลก จะลงป้องกันแชมป์ในฐานะมือวางอันดับ 1 โดยรอบแรกได้บาย รอบสองจะเจอกับ ปารณัท ประพฤติธรรม จากแกรนูลาร์ ส่วนมือวางอันดับ 2 “เพชร” โฆษิต เพชรประดับ อีกหนึ่งกำลังสำคัญของทีมชาติไทยจากศูนย์ฝึกแบดมินตันเชียงใหม่ รอบแรก เจ้าเพชรไม่เหนื่อย ได้บายเข้าไปรอรอบสองพบผู้ชนะระหว่าง อานิก พลังวชิรา จากบ้านทองหยอด กับ กันตวัฒน์ ลีลาเวชบุตร จากตำรวจ
ด้านหญิงเดี่ยว “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ มือดีของทีมชาติไทยจากสโมสรบางโพ เป็นมือวางอันดับ 1 รอบแรกได้บาย รอบสองพบกับ มุนา สุขวัฒน์ จากแอดเฟิร์ส ส่วนมือวางอันดับ 2 “แน็ต” ณิชชาอร จินดาพล “รองแชมป์เก่า” จากทีมตำรวจ รอบแรกได้บาย รอบสองชนกับ นันทน์กาญจน์ เอี่ยมสอาด จากเกษมศักดิ์ แบดมินตัน อคาเดมี
ชายคู่ ติณณ์ อิสริยะเนตร-กิตตินุพงษ์ เกตุเรน (เสนาสปอร์ต-สิงห์เอชเอช) เป็นมือวางอันดับ 1 รอบแรกได้บาย รอบสองพบกับผู้ชนะระหว่าง ธนดล จำปาน้อย-นนท์ปกรณ์ นันธีโร (ทหารอากาศ) กับ ปัณณวัชร์ ธีระพนิตนันท์-นรุตม์ แสงขำ (บ้านทองหยอด) ส่วนมือวางอันดับ 2 นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร-ตนุภัทร วิริยางกูร (ตำรวจ) รอบแรกได้บาย รอบสองรอพบผู้ชนะระหว่าง วรพัทธ์ สุรักขกะ-ณัฐนันท์ ไวยจะมี (บีจี สปอร์ต-PUTI CLUB) กับ สมศักดิ์ มุสิกเกษม-วรรณวัฒน์ อำพันสุวรรณ (ทหารอากาศ)
ขณะที่หญิงคู่ สองสาวที่ผ่านสังเวียนโอลิมปิกเกมส์ 2016 มาแล้วอย่าง “เอิร์ธ” พุธิตา สุภจิรกุล-“ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย (สิงห์เอชเอช-ตรีเลิศ) เป็นมือวางอันดับ 1 รอบแรกได้บาย รอบสองรอเจอผู้ชนะระหว่าง อรณิชา จงสถาพรพันธุ์-ณัชปภา จตุพรกาญจนา (แกรนูลาร์) กับ มนัสศิริ บวรวิชญ์ธนกุล-ศุภาพิชญ์ ศิลป์ประกอบ (ที ไทยแลนด์) ส่วนมือวางอันดับ 2 สุชัญญา กาญจนสาขา-นันท์ภัส สุขกลัด (แกรนูลาร์) จะลงสนามรอบแรกเจอกับ ปนิดา ทิพย์ทวีชาญ-เบญจพร อยู่จงดี (PUZJAK BADMINTON ACADEMY)
ปิดท้ายที่คู่ผสม นำทัพโดยคู่มือ 3 ของโลกอย่าง “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ทรัพย์สิรี (ศรีราชาสปอร์ตคลับ-ตรีเลิศ) เป็นมือวางอันดับ 1 รอบแรกได้บาย รอบสองพบกับ วิชญพงศ์ กาญจนคีรีวงศ์-ฤทัยชนก ไล้สวน ส่วนมือวางอันดับ 2 “แชมป์เก่า” นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร-สาวิตรี อมิตรพ่าย (ตำรวจ-บ้านทองหยอด) รอบแรกได้บาย รอบสองรอเจอผู้ชนะระหว่าง ภัทรพล น้อยประเสริฐ-นรีรัตน์ หงษา (PAKKAWAT@KIP BADMINTON CLUB) กับ กันตวัฒน์ ลีลาเวชบุตร-ศุภาพิชญ์ ศิลป์ประกอบ (ตำรวจ-ที ไทยแลนด์)
สำหรับผู้ชนะเลิศทุกประเภทจะได้รับถ้วยพระราชทาน ส่วนผู้ที่ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศจะได้รับเหรียญรางวัลและเงินรางวัลแต่ละประเภท ดังนี้
ชายเดี่ยว ชนะเลิศ 100,000 บาท รองชนะเลิศ 50,000 บาท ผู้แพ้รอบรองชนะเลิศคนละ 15,000 บาท
หญิงเดี่ยว ชนะเลิศ 100,000 บาท รองชนะเลิศ 50,000 บาท ผู้แพ้รอบรองชนะเลิศคนละ 15,000 บาท
ชายคู่ (ต่อคู่) ชนะเลิศ 120,000 บาท รองชนะเลิศ 60,000 บาท ผู้แพ้รอบรองชนะเลิศคู่ละ 20,000 บาท
หญิงคู่ (ต่อคู่) ชนะเลิศ 120,000 บาท รองชนะเลิศ 60,000 บาท ผู้แพ้รอบรองชนะเลิศคู่ละ 20,000 บาท
คู่ผสม (ต่อคู่) ชนะเลิศ 120,000 บาท รองชนะเลิศ 60,000 บาท ผู้แพ้รอบรองชนะเลิศคู่ละ 20,000 บาท
นอกเหนือจากมือดีที่ยกตัวอย่างมาข้างต้นแล้ว ยังมีนักแบดมินตันดาวรุ่งไทยอีกจำนวนมาก ที่พร้อมจะพิสูจน์ฝีมือกับรุ่นพี่
เมื่อนักกีฬา “พร้อม” พวกเราเหล่ากองเชียร์ก็พร้อมที่จะก้าวเท้าออกจากบ้านเพื่อไปให้กำลังใจ “เขา” และ “เธอ” ในการก้าวไปเป็น “กำลังสำคัญ” ของวงการลูกขนไก่บ้านเรา
