“คสช.” จวก “นปช.” ปมร้องยูเอ็น จุ้น ศูนย์ปราบโกง เตือนอย่าทำอะไรเกินกรอบ ก.ม.
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ รองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ส่วนงานรักษาความสงบ สำนักงานเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติเข้ามาสังเกตการณ์การเปิดศูนย์ฯ ว่า ต้องดูท่าทีของยูเอ็นว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ตนขอชี้แจงว่าทางยูเอ็นมีความเข้าใจคสช.ดีอยู่แล้ว ประกอบกับทุกครั้งที่นปช.ไปร้องเรียนทางยูเอ็นก็ไม่เคยมาถามอะไรกับคสช. หากมีการถามมาเราก็สามารถอธิบายที่มาที่ไปได้ตามข้อเท็จจริง เพราะฉะนั้นคิดว่าไม่มีปัญหา อีกทั้งยูเอ็นเป็นมิตรที่ดีกับเรา อย่างไรก็ตามในฐานะที่เป็นคนไทยคิดว่าไม่เหมาะสม ไม่สมควร เพราะเป็นเรื่องในบ้านเรามีอะไรก็คุยกันในบ้านดีกว่า
พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่ นปช.ยังคงเดินหน้าเปิดศูนย์ฯ ในวันที่ 19 มิถุนายนที่อิมพิเรียลลาดพร้าวนั้น ตนคิดว่าเป็นท่าทีของนปช.ส่วนกลางมากกว่า แต่ในพื้นที่ต่างๆตามต่างจังหวัด เท่าที่เราติดตาม และประเมินทางแกนนำก็ให้ความร่วมมือ อีกทั้งเราก็แจ้งเตือนเสมอว่าประชาชนอย่าตกเป็นเครื่องมือ เพราะอาจจะทำผิดกฎหมายได้โดยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ท้ายที่สุดแล้วก็คงถูกทอดทิ้งอีกเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมา ส่วนกรณีที่แกนนำนปช.จะเปิดศูนย์ฯในวันดังกล่าวนั้น ทางคสช.คงจะมีการตักเตือน บอกกล่าว และขอความร่วมมือ ซึ่งฝ่ายกฎหมายคงเฝ้าติดตามอยู่ ขณะเดียวกันหาก นปช.กระทำอะไรที่เข้าข่ายผิดกฎหมายจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอยู่แล้ว
“ผมขอความร่วมมือสื่อมวลชนว่าเรื่องเหล่านี้บางที่จะสร้างความสับสน ก็ต้องรบกวนให้สื่อลดความให้สำคัญลงไปบ้าง ไม่เช่นนั้นจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และไปกระทำอะไรโดยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้ ทำนองเดียวกันคสช.ขอความร่วมมือนปช.มาโดยตลอด แต่พวกเขามักไม่ค่อยสนใจ และอยากจะทำอะไรก็ทำ ตรงนี้พี่น้องประชาชนคงเข้าใจเองได้” พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านการเลือกตั้ง ออกมาระบุว่าการแกนนำพรรคการเมืองเพื่อไทย17 คน แสดงความคิดเห็นผ่านเฟสบุคที่อาจเกี่ยวข้องกับต้นสังกัดพรรคนั้น จะขัดคำสั่งคสช. และสามารถยุบพรรคได้ พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า เราหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามเฝ้าดู รวมทั้งรวบรวมข้อมูลว่าอะไรที่เข้าข่ายผิด และละเมิดกฎหมาย อย่างไรก็ตามการที่จะถึงขั้นยุบพรรคนั้นเราต้องพิจารณาอย่างรอบคอบมาก เกี่ยวกับองค์ประกอบการทำผิดกฎหมาย เพราะว่าการยุบพรรคการเมืองเป็นเรื่องใหญ่ และเรื่องสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อภาพรวม
