เมื่อวันที่ 8 เมษายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า คณะกรรมการตรวจสอบวินัยปักกิ่งของจีน ประกาศเมื่อค่ำวันอังคาร(7 เม.ย.)ว่า ขณะนี้นายเหริน จื้อเฉียง เศรษฐีเจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ วัย 69 ปี กำลังถูกเจ้าหน้าที่สอบสวนกรณีกระทำผิดทางวินัยและกฎหมายอย่างร้ายแรง
นับเป็นการเปิดเผยชะตากรรมของนายเหริน นักวิพากษ์วิจารณ์พรรคคอมมิวนิสต์จีนตัวยงเป็นครั้งแรก หลังจากนายเหริน ผู้ได้ฉายาว่า “ปืนใหญ่” ได้หายตัวไปเมื่อราวกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังเขาเขียนบทความวิจารณ์การทำงานของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ในการต่อสู้กับวิกฤตแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ลุกลามไปทั่วโลก ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตในประเทศจีนแล้ว 3,337 ราย และติดเชื้อถึง 82,783 ราย
กลุ่มรณรงค์ด้านสิทธิกล่าวหาประธานาธิบดีสีและพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่าใช้ข้อกล่าวหาเช่นการกระทำผิดวินัยร้ายแรงที่บ่อยครั้งมักถูกโยงถึงการทุจริต มาเป็นเครื่องมือปิดปากฝ่ายตรงข้าม
ในข้อเขียนดังกล่าวของนายเหรินซึ่งเผยแพร่ในโลกออนไลน์ได้ถูกลบทิ้งไปจากระบบอินเตอร์เน็ตของจีน ทว่ามีการแชร์ต่อในโลกออนไลน์นอกจีนก่อนหน้าแล้วระบุว่า โรคระบาดได้เผยข้อเท็จจริงให้เห็นว่าพรรคคอมมิวนิสต์และเจ้าหน้าที่รัฐห่วงเพียงแต่การปกป้องผลประโยชน์ส่วนตน และผู้ปกครองห่วงแต่ปกป้องผลประโยชน์และตำแหน่งของตนเอง
ข้อเขียนนี้ยังกล่าวหารัฐบาลจีนว่าปกปิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่แรกด้วย
นายเหริน ยังเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนและเป็นอดีตประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ “ปักกิ่ง หัวหยวน กรุ๊ป” ของทางการ เคยมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับบุคคลระดับสูงทางการเมือง รวมถึงนายหวัง ฉีซาน รองประธานาธิบดีจีน ซึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของนายเหรินด้วย
นายเหรินยังเป็นบล็อกเกอร์ทรงอิทธิพลบน “เวยป๋อ” โซเชียลมีเดียยอดนิยมในจีน ที่เขามียอดผู้ติดตามหลายล้านราย
หย่าฉิว หวัง นักวิจัยจากกลุ่มฮิวแมนไรท์วอท์ช กล่าวว่า การสอบสวนนายเหรินเป็นรูปแบบของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ใช้ข้อกล่าวหาอย่างกระทำผิดวินัยร้ายแรงมาปิดปากผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ตนเอง และว่า มีความเป็นไปได้ที่นายเหรินอาจถูกควบคุมตัวอยู่ในสถานที่กักกันพิเศษที่เรียกว่า ” ลิ่วจื้อ” ที่ทนายและครอบครัวไม่สามารถเข้าถึงตัวเขาได้ ซึ่งอาจถูกควบคุมตัวนานถึง 6 เดือน
