‘ส้มหยุด’ ชาวเน็ตไม่หยุด! คาใจ ‘สำนักพุทธ’ สั่งแก้รูป ‘สิตางศุ์’ วงวิชาการเสียงแตก
‘ส้มหยุด หยุดโดยไม่มีอะไรกั้น’ กลายเป็นประเด็นถกเถียงหนักมาก เมื่อศิลปินไอเดียบรรเจิดผุดภาพเจ้าของวลีฮิต สิตางศุ์ บัวทอง บนจิตรกรรมฝาผนังอุโบสถ วัดหนองเต่า จ.อุทัยธานี ซึ่งต่อมา นายธรรมนันท์ จุฑาธนทรัพย์ นักวิชาการศาสนาชำนาญการ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุทัยธานี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพแล้วฟันธงว่า ไม่เหมาะสม ด้วยอากัปกิริยา ชี้ส้ม จึงสั่งแก้ไขให้ ‘พนมมือ’ ขณะรับเสด็จองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแทน
ล่าสุด ด้านศิลปินพร้อมหยุด น้อมรับ เตรียมแก้ไข ทว่า งานนี้ชาวเน็ตวิพากษ์หนัก โดยความเห็นจำนวนมากเป็นไปในทิศทางที่ตั้งคำถามต่อความเห็นของสำนักพุทธฯ ที่สั่งการแก้ไขทั้งที่ควรเป็นเสรีภาพของศิลปินในการแสดงออกหากไม่ใช่ประเด็นเสียหายถึงขนาดไม่สามารถรับได้
ไม่เพียงเท่านั้น แวดวงวิชาการด้านประวัติศาสตร์ พากันหยิบยกกรณีตัวอย่างภาพเชิงสังวาส หรือการมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกบรรจงแต่งแต้มในจิตรกรรมฝาผนังมาแต่ยุคโบราณ
ผศ.ดร.รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์คณะมนุษยศาสตร์ ม.รามคำแหง โชว์ภาพหญิงชายร่วมรักในจิตรกรรมวัดบางยี่ขัน กรุงเทพฯ พร้อมทิ้งคำถามสั้นๆว่า หากภาพส้มหยุดแม่สิตางศุ์ไม่เหมาะ ต้องลบทิ้ง คงต้องมีจิตรกรรมโบราณถูกลบทิ้งทั้งพระนคร
ในขณะที่เพจภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ ม.รามคำแหง รวบรวมภาพเชิงสังวาสในจิตรกรรมไทยประเพณีออกมาเผยแพร่
ด้าน สมบัติ พลายน้อย หรือ ส.พลายน้อย ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ บอกกับ ‘มติชน’ ว่า ไม่รู้จักสิตางศุ์ บัวทองมาก่อน แต่เห็นข่าวจากโทรทัศน์ ส่วนมุข ‘ส้มหยุด’ นั้น ตนไม่ค่อยเข้าใจว่ามาจากไหน แต่จิตรกรรมฝาผนัง ศิลปินที่วาดควรมองถึงความเหมาะสมของสถานที่เป็นหลัก ส่วนที่มีการยกภาพเชิงสังวาสในสมัยโบราณมาเป็นตัวอย่างนั้น มองว่าเป็นการวาดในจุดที่ไม่โดดเด่น ไม่ประเจิดประเจ้อ วาดไว้ในจุดลับ เช่น ด้านหลังของพระประธานซึ่งค่อนข้างมืด
เป็นอีกประเด็นน่าสนใจที่แม้ภาพส้มหยุดแม่สิตางศุ์จะถูกแก้ไข แต่ข้อถกเถียงนี้สะท้อนความคิด ความเห็น ความเชื่อในสังคมไทยที่มีพลวัตรและพัฒนาการน่าสนใจยิ่ง
