เหยี่ยวถลาลม : เบื้องหลัง‘บ่อนระยอง’
ในที่สุดเชียงใหม่ที่รักษาสถานะ “พื้นที่สีเขียว” ปลอดโควิดเอาไว้ได้นานเกือบเดือนก็ถูกตีแตกด้วย “สาวระยอง” ที่ขึ้นเครื่องจากสนามบินอู่ตะเภา-เชียงใหม่
“ระยอง” วันนี้กำลังกลายเป็นตัวแพร่ไม่แพ้สมุทรสาคร คล้ายกรณี “สนามมวยลุมพินี” ที่เคยเป็นจุดแพร่ “โควิด-19” ในรอบแรก
นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ยอมรับว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่กำลังพุ่งเข้าใกล้หลักร้อยนั้น ทั้งหมดสัมพันธ์กับ “บ่อนการพนัน” คาดว่าจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นอีก
“บ่อนระยอง” เป็นจุดแพร่โควิด-19 ทำให้จังหวัดระยองกลายเป็น “พื้นที่ควบคุมสูงสุด” เช่นเดียวกับสมุทรสาคร
แต่ถึงแม้จะจวนตัวขนาดนั้น “ตำรวจภูธรภาค 2” ที่เป็นหน่วยเหนือกับ “ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง” ที่อยู่ในบังคับบัญชาก็ยังคงใช้สีข้างเข้าถู
พล.ต.ต.ปภัชเดช เกตุพันธ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง บอกว่า มีคนติดโควิด-19 จากสถานที่
ลักลอบเล่นการพนันแค่ 7 คน และที่นั่นไม่ใช่บ่อน เป็นแต่เพียง “การลักลอบเล่น”
ที่ตรงนั้นเป็นห้องหับขนาดใหญ่ ภายในจุคนได้ราว 300-500 ติดแอร์เย็นฉ่ำ ผนังติดวอลเปเปอร์สวยหรูดูจากภายนอกทุกทิศทางปิดมิดชิด
เป็นอาคารชั้นเดียวตั้งอยู่ริมถนนจิตรพันธ์ ใกล้ บขส.เก่าระยอง สะดวกแก่การใช้พื้นที่ของ บขส.สำหรับจอดรถ
ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนจึงมีรถนับร้อยๆ คันหมุนเวียนจอดเนืองแน่น
“บ่อนระยอง” เกี่ยวพันกับการ “ถอนทุนคืน” ของใครบางคน !
แต่สำหรับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง หลังจากส่งสายลงไปสืบสวนในพื้นที่แล้วความลับก็กระจ่าง จึงสะบัดปากกาเซ็น “คำสั่งเด้งด่วน”
พล.ต.ต.ปภัชเดช ขาดจากตำแหน่ง “ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง”
รวดเร็วทันใจดีอยู่ แต่ “คำสั่งย้าย” ครั้งนี้ไม่ควรจะเป็นการ “ตัดไฟ” ไม่ให้ลาม !
บ่อนระยองเกี่ยวข้องอะไรกับการขายพระราคาสูงลิ่ว !
บ่อนระยองเกี่ยวข้องกับใครที่เป็นใหญ่ในปัจจุบันและใครในอดีต
แล้วก็ ที่ว่านั้น มีความเกี่ยวพันอย่างไรกับ “ผู้ใหญ่” ในรัฐบาลที่มักถูกอ้างชื่อว่าเป็น “เจ้าของบัญชี” จนถึงขนาดที่ “ผบ.ตร.” ยังต้องเกรงอก
เกรงใจจริงหรือ
เพื่อประโยชน์สาธารณะ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ควรจะ “ค้นหาความจริง” ให้ลึกลงไปอีก พบแล้วก็นำออกมาตีแผ่ว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลัง “บ่อนระยอง” !?!!