สถานะ ของศักดิ์สยาม ชิดชอบ สถานะพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย
เหมือนกับจะเป็นการเล่นละครจากกรณีที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จากพรรคภูมิใจไทย ถูก 6 ส.ส.ที่เรียกตนเองว่า ‘ดาวฤกษ์’ ยกมือ ‘ไม่ไว้วางใจ’
ทันทีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐตั้งกรรมการ ‘สอบ’ ทุกอย่างก็น่าจะเรียบร้อย
ทันที่ที่ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้า ‘กลุ่มดาวฤกษ์’ แห่งพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความ ‘ขอโทษ’ ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวทุกอย่างก็น่าจะเรียบร้อย
แต่หากสดับตรับฟัง ‘อุณหภูมิ’ อันเดือดพล่านภายในพรรคภูมิใจไทย ยิ่งสดับตรับฟัง ‘น้ำเสียง’ อันสะท้อนผ่าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ทุกอย่างไม่น่าจะง่ายดายเช่นนั้น
คำขอโทษไม่ว่าจะมาจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่าจะมาจาก น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอ เพราะนี่มิได้เป็นเรื่อง ‘ส่วนตัว’
ที่รุนแรงและมากด้วยความแหลมคมอย่างเป็นพิเศษ คือ เป็นเรื่องระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคภูมิใจไทย
สถานะของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ มิได้เป็นเพียงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมตามมติและความเห็นชอบของพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น
ที่สำคัญการดำรงตำแหน่งนี้ยังเป็นความเห็นชอบในขั้นสุดท้าย โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ที่สำคัญอย่างที่สุดคือสถานะและการดำรงอยู่ของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ คือเป็นสถานะและการดำรงอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการ พรรคภูมิใจไทย
ที่สำคัญซึ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล มิได้กล่าวหรืออ้างอิงแต่เป็นที่รับทราบกันโดยอัตโนมัติก็คือ นายศักดิ์สยาม มีนามสกุลว่า ชิดชอบ การมาของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ จึงไม่ธรรมดา
มีความสัมพันธ์อยู่กับ นายเนวิน ชิดชอบ อย่างแนบแน่น
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า การเป็นหัวหน้าพรรค การเป็น ส.ส.บัญชี รายชื่อของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล มีรากฐานมาจาก ‘บุรีรัมย์’
ท่าทียืนหยัดและยืนยันต่อสถานะและเกียรติภูมิของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ จึงเป็นการยืนหยัดและยืนยันต่อ เลขาธิการพรรค ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ทั้งหมดนี้มิได้เป็นเรื่อง ‘ส่วนตัว’ หากแต่เป็นสถานะและเกียรติภูมิระหว่างพรรคภูมิใจไทยต่อพรรคพลังประชารัฐ
