ลิเวอร์พูล ผลงานใช้ได้ในเดือนแรกของฤดูกาล แต่เล่นไปเล่นมากลายเป็นทีมที่มีแต่ โชคร้าย และ (น่าจะ) ไม่มีความสุขสักเท่าไหร่
หงส์แดง ซื้อตัวใหม่ 4 คน ฟอร์มดีแค่ โม ซาลาห์ คนเดียว กรณีของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่งอแงอยากย้ายทีมก็เพิ่งจะเคลียร์กันจบไม่นาน
ล่าสุด ตัวรุกอันดับ 1 ซาดิโอ มาเน่ ดันเจ็บเอ็นเข่าจากทีมชาติ ต้องพัก 6 สัปดาห์ขึ้นไป
เสาร์นี้เจอ แมนฯ ยูไนเต็ด ในบ้าน มาเน่ลงไม่ได้
รู้กันอยู่นะครับว่า หงส์ขาดมาเน่แล้วเหมือน ขาดใจ ที่ผ่านมา นัดไหนหมอนี่ไม่ได้ลง โอกาสชนะเฉลี่ยของลิเวอร์พูล ลดลงเหลือแค่ 43 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
เกมฟาดกับแมนฯ ยู ดันเป็นเกมที่หงส์ต้องชนะซะด้วย ถ้าหวังจะกลับมา ลุ้นแชมป์ หรือ ติดท็อปโฟร์
ลิเวอร์พูลตามทีมอันดับ 2 ยูไนเต็ด 7 แต้ม ถ้าชนะไล่เหลือ 4 แต่ถ้าแพ้จะโดนฉีกหนีไป 10 คะแนน
โดนแมนฯ ยู ทิ้ง 10 แต้มตอนนี้ เรื่องจะไล่ให้ทัน หรือคิดแซงกลับมาแทบจะเป็นไปไม่ได้
กุนซือ โจเซ่ มูรินโญ่ ปรับจูน ปีศาจแดง ให้เป็นทีมที่เก็บคะแนนเก่ง บางนัดเล่นไม่ดี ก็ยังชนะสูสี หรืออย่างแย่ก็เสมอ
ตัวที่เข้ามาเป็นจุดเปลี่ยนคือ โรเมลู ลูกากู ซึ่งยิงประตูได้เรื่อยๆ ไม่ว่าฟอร์มดี-ฟอร์มแย่ ขณะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นตัวเปลี่ยนจากรับเป็นรุกด้วยความสด และความเร็ว
แมนฯ ยู ต่างจากลิเวอร์พูล คือ ไม่จำเป็นต้องเล่นดีก็ชนะได้ ส่วนหงส์แดงหลายนัดขนาดเล่นดีแล้ว ก็ยังไม่ชนะ
ที่ไม่ชนะก็เพราะ กองหน้าไม่คม ใช้โอกาสเปลือง
โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ขยันวิ่ง ขยันไล่ เล่นบอลถูกใจกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ แต่ไม่ใช่เครื่องจักรถล่มประตู ไม่ใช่กองหน้าประเภทยิง 30 ลูกขึ้นไป
แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ตอนนี้ก็ไม่ใช่ โม ซาลาห์ อาจจะวูบวาบจริง แต่ทีเด็ดทีขาดยังต้องปรับ
เกมเจอแมนฯ ยู วันเสาร์ ลิเวอร์พูลคงสู้ยิบตา ไล่บี้เหมือน หมาบ้า กดดันทีมเยือนได้เยอะทีเดียว
แต่จะยิงประตูได้หรือเปล่า?
แฟนหงส์คงจำความรู้สึกเวลาทีมรักบุกเป็นบ้าเป็นหลัง แต่ยิงทิ้งยิงขว้าง หรือเอาแต่จ่ายบอลหาจังหวะจบไม่ลงได้ใช่ไหมครับ
เสาร์นี้ มันอาจจะกลับมา!
