“สุรพงษ์” อัด กรธ. ปักธงร่างรธน. จงใจให้ถูกคว่ำ เปิดทางคสช.อยู่ทอดอำนาจยาว จี้ ถาม”บิ๊กตู่” หากไม่ผ่านประชามติใช้รธน.ฉบับใดแทน พร้อมทวงความรับผิดชอบหากปท.เสียหาย-ศก.ตกต่ำ
เมื่อวันที่ 31 มกราคม นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนเชื่อว่า ได้เกิดคำถามขึ้นในใจของประชาชนและสังคมโลกว่ากำลังถูกหลอกให้หลงเชื่อว่าไทยเรากำลังร่างรัฐธรรมนูญใหม่ขึ้นมาเพื่อปฎิรูปประเทศและกำลังแก้ไขความขัดแย้งสร้างความปรองดองขึ้นในสังคมไทยและจะคืนประชาธิปไตยให้ประชาชนคนไทยจริงหรือไม่ อีกทั้งตนยังอดสงสัยไม่ได้ว่ามีความตั้งใจที่จะไม่ให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้วก็เป็นได้ เพราะเท่าที่ได้ติดตามตั้งแต่การยกร่างรัฐธรรมนูญของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ก็ถูกคว่ำไปโดยสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และขณะนี้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. และ กรธ. มาช่วยกันยกร่างรัฐธรรมนูญ ก็มีแนวโน้มที่จะยืดเวลาจาก 6-4-6-4 เดือนไปเป็น 6-4-8-5 เดือน แล้วในที่สุดก็อาจจะถูกคว่ำทิ้งโดยประชาชน เนื่องจากรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า และดูเหมือนว่าการยกร่างรัฐธรรมนูญของกรธ. เป็นไปตามความต้องการและรูปแบบที่ตั้งใจตั้งธงเอาไว้แล้วให้มีการยกร่างขึ้นมาโดยไม่ฟังเสียงคัดค้าน ไม่รับฟังคำชี้แนะหรือข้อเสนอจากฝ่ายใดทั้งสิ้นและก็ยกร่างขึ้นมาไม่ให้เป็นประชาธิปไตยที่่สากลยอมรับได้ เพื่อต้องการหรือมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญถูกคว่ำทิ้งไปและก็ต้องมาเสียเวลายกร่างกันขึ้นมาใหม่อีกเพื่อที่จะใช้เป็นข้ออ้างว่าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติก็ยังไม่สามารถปฎิรูปประเทศได้ ความปรองดองก็ยังไม่เกิด สังคมยังแตกแยกอยู่ จึงจำเป็นต้องยืดเวลาออกไปอีก เป็นข้ออ้างที่ทำให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)อยู่ในอำนาจได้ยาวและนานขึ้น
“ต้องถามกันด้วยความสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนกำลังถูกหลอกกันหรือไม่ และหากตั้งใจนำวิธีการเช่นนี้มาใช้จริงก็ต้องยอมรับว่าคสช. มาเหนือเมฆ แบบที่คนคาดคิดไม่ถึงเพราะจะได้ใช้เป็นข้ออ้างว่าไม่อยากให้การปฎิวัติครั้งนี้เสียของเหมือนในอดีต ดังนั้นคสช. จึงต้องทำให้แตกต่างโดยจัดตั้งให้มีแม่น้ำ 5 สายขึ้นมาช่วยกันแก้ปัญหาบ้านเมือง ปฎิรูปประเทศให้เดินหน้าไปให้ได้ภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ที่ถูกเขียนขึ้นมาภายใต้หลักการของคสช. ที่ยังต้องการรักษาอำนาจเอาไว้อยู่ในอุ้งมือเหนือรัฐบาลเป็ดง่อยที่จะได้มาจากการเลือกตั้งและให้อยู่ภายใต้อำนาจการควบคุมขององค์กรอิสระที่จะกำกับรัฐบาลได้อย่างเต็มที่ จนกระดิกกระเดี้ยคิดทำอะไรให้ประชาชนแทบไม่ได้และก็จะเห็นได้ว่าหัวหน้าคสช. ก็มักจะตั้งคำถามแบบข่มขู่และจี้ใจดำตลอดเวลาว่า อยากให้กลับไปเป็นเหมือนเดิมทะเลาะกันบนท้องถนน ปิดถนน ปิดทำเนียบ ทำร้ายกันเองอีกหรืออย่างไร และก็จะใช้ข้ออ้างว่าถ้ากลับไปใช้รัฐธรรมนูญ ปี 40 หรือ ปี 50 ทุกอย่างก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม ขัดแย้งทะเลาะกันอีกและนักการเมืองโกงกินแบบเดิมๆ จะเอาไหม ฃึ่งก็เข้าล๊อคที่พวกท่านวางกันเอาไว้พอดิบพอดี ว่ายังไงก็ต้องมีรธน ใหม่ขึ้นมาให้ได้เพื่อบังคับใช้เพื่อใช้ปฎิรูปประเทศให้ได้ นี่ก็ต้องขอชมเชยกุนฃือของคสช. ที่วางแผนการไว้ได้แยบยลและแนบเนียนระดับเฃียนจริงๆ”
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า จึงมีคำถามที่อยากจะขอให้พวกท่านช่วยตอบสังคมด้วยว่า 1.หากเกิดความเสียหายแก่บ้านเมืองจนประชาชนเดือดร้อน เศรษฐกิจประเทศตกต่ำพังลง รายได้ภาษีไม่พอรายจ่ายของประเทศ ฯลฯ ความสัมพันธ์กับต่างประเทศในฃีกประชาธิปไตยถดถอยลงไปพวกท่านจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร 2.เมื่อประชาชนเริ่มรู้ทันความคิดของพวกท่านและรู้ว่ากำลังถูกหลอกให้ต้องรับร่างรัฐธรรมนูญของพวกท่านแล้วสมมุติว่าประชาชนตัดสินใจคว่ำรัฐธรรมนูญทิ้งก็อยากจะถามว่าท่านจะยอมหันกลับมาประกาศให้ใช้รัฐธรรมนูญปี40 ที่เป็นประชาธิปไตยและได้มาจากประชาชนอย่างแท้จริงได้หรือไม่ และ3.จะยืดเวลาขยายโรดแมปของท่านออกไปอีกตามที่กรธ. เสนอมาในครั้งนี้หรือไม่ และคิดจะบริหารบ้านเมืองต่อไปอีกนานเท่าใดและท่านได้คิดคำนวนเอาไว้แล้วหรือยังว่ามูลค่าความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดล้มเหลวของพวกท่านจะคิดเป็นมูลค่าอีกประมาณเท่าไร เหตุใดจึงไม่คิดที่จะรีบคืนความเป็นประชาธิปไตยให้แก่คนไทยก่อนที่ประเทศชาติจะเสียหายไปมากกว่านี้
