เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหัวขวาง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม นายสมยศ จันทะรักษ์ นายช่างโยธาอาวุโส อบต.หัวขวาง ร้องเรียนสื่อมวลชนว่า รถของตนถูกออกใบสั่งข้อหาขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด จากสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จ.นครปฐม และสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จ.เพชรบุรี รวม 3 ใบ โดยที่รถคันที่ถูกถ่ายรูปใบสั่ง มีการปลอมแปลงปิดบังหมายเลขทะเบียนรถ
โดยนำบางสิ่งบางอย่างมาปิดทับหมายเลขตัวสุดท้ายไว้ ทำให้สามหมายเลขด้านหน้า ตรงกับทะเบียนรถของตน ทำให้ตนได้รับความเดือดร้อน โดนใบสั่งถึง 3 ใบ ทั้งๆ ที่ไม่เคยขับรถไปเส้นทางดังกล่าว อีกทั้งเกรงว่ารถคันที่ก่อเหตุจะทำสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้เข้าลงบันทึกประจำวันไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โกสุมพิสัย และร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามเจ้าของรถคันดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายสมยศเล่าว่า รถของตนเป็นรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค หมายเลขทะเบียน ชป 957 กรุงเทพมหานคร โดยเมื่อวันที่ 24 เมษายน 62 ตนได้รับใบสั่งจากสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง อ.เมือง จ.เพชรบุรี เพื่อไปเสียค่าปรับ ข้อหาขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด เหตุเกิดที่ ทล.4 กม.117-118 ต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งมีภาพถ่ายระหว่างที่รถวิ่งผ่านกล้องตรวจจับความเร็ว อยู่ที่ 163 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ครั้งที่ 2 วันที่ 9 พฤษภาคม 62 ได้รับใบสั่งจากสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง อ.เมือง จ.นครปฐม เหตุเกิดที่ ต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา จ.สมุทรสาคร ความเร็วอยู่ที่ 154 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และครั้งที่ 3 วันที่ 30 พฤษภาคม 62 ได้รับใบสั่งจากสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง อ.เมือง จ.เพชรบุรี เหตุเกิดที่ ทล.4 กม.117-118 ต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งมีภาพถ่ายระหว่างที่รถวิ่งผ่านกล้องตรวจจับความเร็ว อยู่ที่ 125 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยครั้งนี้รถคันก่อเหตุได้มีการยื่นมือออกมานอกรถ และชูมือขึ้นเหมือนเป็นการท้าทายเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าอย่างไรก็ไม่สามารถจับได้ เพราะมีการปลอมแปลงเลขทะเบียน
ซึ่งจากที่สังเกตจากใบสั่งที่ส่งมาถึงนั้น มีการนำบางอย่างมาปิดบังหมายเลขตัวสุดท้าย ทำให้เลข 3 ตัวหน้า เหมือนกับรถของตน ทำให้ตนได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งรถของตนไม่มีไฟตัดหมอก แต่รถคันก่อเหตุมีไฟตัดหมอก ทำให้ตนไม่สบายใจ ที่อยู่ดีๆ ก็โดนใบสั่ง ทั้งๆ ที่ไม่ได้เดินทางไปไหนเลย แต่ความเดือดร้อนก็มาถึงประตูบ้าน
ซึ่งทั้ง 3 ครั้ง ตนได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.โกสุมพิสัย และได้แจ้งไปยังหน่วยงานต้นสังกัดที่ออกใบสั่งให้ตนแล้ว ซึ่งตนได้รับการยกเว้นค่าปรับไปแล้ว โดยตั้งแต่ตนออกรถคันนี้มา 12 ปี ยังไม่เคยขับรถไปทางแถบ จ.สมุครสงครามหรือ จ.เพชรบุรีเลย รถคันนี้จะใช้ขับแค่จากบ้านมาที่ทำงานเท่านั้น แต่ตนยังมีความกังวลเกรงว่าหากรถคันดังกล่าวไปก่อเหตุผิดกฎหมาย จะนำเรื่องเดือดร้อนมาสู่ตน และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุตัวจริงมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในการกระทำความผิดอีก
