เชียงใหม่เสริมเฮลิคอปเตอร์ลุยดับไฟป่า-สะเมิง ส่งกำลังทหารเข้าคุม 5 อำเภอเสี่ยง คาดบ่ายนี้มีฝนตก

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดจุดความร้อนในเขตพื้นที่ อ.สะเมิง เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (29 มีนาคม) จำนวน 7 จุด ในเขตป่าอนุรักษ์ ต.สะเมิงใต้ จำนวน 3 จุด เขตป่าอนุรักษ์ ต.สะเมิงเหนือ จำนวน 1 จุด และเขตป่าสงวนฯ ซึ่งเป็นพื้นที่บริหารจัดการเชื้อเพลิงอีก 3 จุด

โดยหนักสุดพื้นที่บ้านศาลา-ป่ากล้วย หมู่ 4 ต.สะเมิงใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ลาดชัน เป็นผาหิน มีลักษณะเป็นป่าไผ่แห้ง และไม่มีการเผาไหม้มาประมาณ 3 ปี ทำให้ไม่สามารถดับไฟได้รวดเร็ว เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนระดมกำลังร่วมเฝ้าระวังและจัดทำแนวกันไฟในพื้นที่โดยรอบ และมีการเสริมกำลังเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 ลำ ขึ้นปฏิบัติการดับไฟจำนวน 50 เที่ยว และเช้านี้ได้เพิ่มกำลังเฮลิคอปเตอร์เป็น 3 ลำ เข้าดับไฟ และเสริมกำลังเจ้าหน้าที่อีก 120 นาย ร่วมทำแนวกันไฟเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะสามารถจำกัดพื้นที่เผาไหม้จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ในวันนี้

“เช้านี้สภาพอากาศทั่วไปในเขตพื้นที่ อ.สะเมิง ยังมีควันคุกรุ่น เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินทั้งหมด รวมทั้งทีมโดรน ยังคงตรึงอยู่ในพื้นที่เพื่อควบคุมหัวไฟและท้ายไฟ

“ส่วนค่าคุณภาพอากาศ หรือ PM 2.5 อยู่ที่ 125 มิลลิกรัม และมีกระแสลมพัดมาจากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็วประมาณ 7 กม./ชม. (ณ เวลา 09.00 น.) และจากการพยากรณ์อากาศในระบบ CMDSS คาดว่าในช่วงบ่ายวันนี้อากาศจะยกตัวขึ้นประมาณ 1,000 มิลลิบาร์ หรืออากาศยกตัวได้ดี ความเร็ว 16 กม./ชม. และคาดว่าจะมีฝนตกในบ่ายวันนี้” นายเจริญฤทธิ์กล่าว

Advertisement

อ่านข่าว : ‘วราวุธ’ ย้ำ ดับไฟป่า อ.สะเมิง ได้แล้ว เผยต้องตรวจสอบสภาพอากาศ เอื้อเกิดฝุ่นพีเอ็ม 2.5 หรือไม่

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนในพื้นที่ติดตามรับฟังข่าวสารและข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อปฏิบัติตัวและการดูแลสุขภาพได้อย่างถูกต้อง โดยแนะนำให้ประชาชนควรสวมหน้ากากอนามัย ลดกิจกรรมกลางแจ้ง ดื่มน้ำในปริมาณมาก ใช้น้ำเกลือกลั้วคอป้องกันการเจ็บคอและควรปิดประตูและหน้าต่างไม่ให้ฝุ่นเข้า ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะเด็กเล็ก คนชรา หญิงมีครรภ์ และผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ โรคประจำตัวในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด ต้องดูแลตนเองเป็นพิเศษ

Advertisement

ผู้ว้าฯระบุเพิ่มเติมว่า ในส่วนของ อ.สะเมิง ได้จัดตั้งพื้นที่เซฟตี้โซนไว้ให้บริการประชาชนแล้ว 20 แห่ง ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ว่าการอำเภอ โรงพยาบาลประจำอำเภอ และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดของเซฟตี้โซนได้ที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 0-5321-1048

ด้าน พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า กองบัญชาการจัดชุดลาดตระเวน 2 ชุดปฏิบัติการ จากกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 7 และกองพันพัฒนาที่ 3 จำนวน 20 นาย พร้อมจัดอากาศยาน KA-32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อากาศยาน BT-67 เฮลิคอปเตอร์ AS-350 B2 จากกรมฝนหลวงและการบินเกษตร และเฮลิคอปเตอร์ AS-350 B2-1106, 1117 จำนวน 2 ลำ จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนับสนุนปฏิบัติการดับไฟป่าพื้นที่บ้านสะเมิงแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างวันที่ 30 มีนาคม-1 เมษายน กองบัญชาการได้จัดกำลังออกลาดตระเวนใน จ.เชียงใหม่ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังการเกิดไฟป่า โดยกำลังจากมณฑลทหารบกที่ 33 ร่วมกับหน่วยดับไฟป่าเคลื่อนที่ผาลาด สถานีควบคุมไฟป่าภูพงค์เข้าลาดตระเวนพื้นที่บ้านขุนช่างเคี่ยน ถึงอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม

ขณะที่กรมรบพิเศษที่ 5 จัดกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีล้านนาเข้าลาดตระเวนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนา อ.แม่แตง อ.พร้าว และกำลังทหารจากกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 7 เข้าปฏิบัติการลาดตระเวนพื้นที่บ้านเมืองนะ บ้านเมืองงาย บ้านแม่แมะ บ้านทุ่งข้าวพวง และบ้านปิงโค้ง (ดอยหลวง) อ.เชียงดาว

สำหรับกำลังทหารจากกองพันสัตว์ต่าง กรมการสัตว์ทหารบก นำกำลังเข้าปฏิบัติการพื้นที่สวนเกษตรวิชญา ต.โป่งแยง อ.แม่ริม โดยร่วมกับหน่วยดับไฟป่าเคลื่อนที่แม่แมะ สถานีควบคุมไฟป่าภูพงค์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image