ความเคลื่อนไหวของ “ช้างศึก” ฟุตบอลทีมชาติไทย ก่อนลงเตะฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2018 “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018” กลุ่มบี นัดที่ 4 กับทีมชาติสิงคโปร์ วันนี้ (25 พฤศจิกายน) ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 18.30 น. ช่อง 7 เอชดี ถ่ายทอดสด
โดยสถานการณ์ปัจจุบัน ช้างศึกยังนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มบี แม้มี 7 คะแนนจาก 3 นัดแรก เท่ากับฟิลิปปินส์ แต่ไทยมีประตูได้เสียดีกว่า ทำให้ขอเพียง 1 คะแนนในเกมนี้จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศทันที ขณะที่สิงคโปร์ที่มี 6 คะแนน ต้องบุกมาชนะสถานเดียวเท่านั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ห้อง 127 ราชมังคลากีฬาสถาน ได้มีการแถลงความพร้อมก่อนการแข่งขัน มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย และศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าทีมชาติไทยร่วมแถลงข่าว ส่วนสิงคโปร์มีฟานดี้ อาหมัด หัวหน้าผู้ฝึกสอน และฮาริสส์ ฮารูน นักเตะของทีมร่วมแถลง
ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า หลังกลับจากฟิลิปปินส์ การฝึกซ้อมทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เราวางไว้ การที่ทั้งสองกลุ่มยังมีโอกาสลุ้นเข้ารอบถึง 3 ทีม แสดงให้เห็นว่าการแข่งขันรายการนี้เป็นรายการที่มีคุณภาพมากๆ และยังต้องทํางานหนักต่อไป แม้ว่าเราจะเสมอมาในเกมล่าสุด แต่เกมนี้ก็ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร คิดว่าเกมกับฟิลิปปินส์ ไทยเสียประตูเพราะความโชคร้ายด้วย แต่ก็ต้องชื่นชมฟิลิปปินส์เช่นกันที่เล่นได้ดี แต่ลืมผลการแข่งขันเกมนั้นไปหมดแล้ว และกําลังโฟกัสอย่างเต็มที่ในเกมกับสิงคโปร์ ในแง่แทคติค ตนไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ก่อนเกมอยู่แล้ว คงตอบไม่ได้ว่าจะเล่นอย่างไร แต่จะเน้นผลการแข่งขันเป็นสิ่งสําคัญที่สุด
“ผมมองว่าสิงคโปร์ชุดนี้มีจุดเด่นอยู่ที่วินัยในการเล่น และเท่าที่ผมศึกษา ผู้เล่นทุกคนก็เล่นได้ตามแทคติคของโค้ชมากๆ และอย่างที่เคยบอกไป เราไม่สามารถประมาททุกทีมได้เลย แต่เราก็เตรียมทีมมาดีเช่นกัน ที่สําคัญการที่เราได้เล่นในบ้าน เราก็หวังว่าจะได้ผลการแข่งขันที่ดี ขณะที่เกมล่าสุดที่เรามีการเปลี่ยนแปลงผู้รักษาประตู จริงๆ ผมคิดว่าทั้งแชมป์ (ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน) และบอย (ฉัตรชัย บุตรพรม) มีศักยภาพที่เท่าเทียมกันอยู่แล้ว ทําให้ในแต่ละเกม เราสามารถเลือกใช้ได้ทั้ง 2 คน” ราเยวัชกล่าว
ขณะที่ศุภชัยที่ยิงไปแล้ว 2 ประตู กล่าวว่า สภาพทีมตอนนี้สมบูรณ์เต็มที่ แม้ว่าจะเหนื่อยล้าจากการเดินทางอยู่บ้าง การเจอสิงคโปร์ไม่ใช่งานง่าย และพูดตามตรง มันก็ไม่ง่ายทุกเกมอยู่แล้ว แต่ไทยมีการเตรียมทีมที่ดีอยู่ตลอด ดังนั้นเชื่อว่าจะสามารถเก็บ 3 คะแนนสําคัญ เพื่อผ่านเข้ารอบต่อไปได้
ส่วนฟานดี้ อาหมัด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ถล่มติมอร์เลสเตมา 6-1 ลูกทีมรวมใจกันทำผลงานได้ดี แต่กับไทยเป็นสถานการณ์ที่ต่างออกไป เพราะเป็นทีมที่แข็งแกร่งและได้เล่นในบ้าน แต่ก็ยังมั่นใจว่าจะทำผลงานได้ดีและผ่านเข้ารอบต่อไปได้
“เราเดินทางมาที่นี่ เราไม่มีอะไรจะเสีย สิงคโปร์ถูกหลายๆ คนดูถูก โดยเฉพาะแฟนบอลของเราที่คิดว่าพวกเราอาจมาไม่ได้ไกล แต่ในตอนนี้เราได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเรามีโอกาสที่จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ และผมเชื่อว่าหากทุกคนรวมใจเป็นหนึ่งเดียว เรามีโอกาสสร้างเซอร์ไพรส์ได้แน่นอน เรามีนักเตะสิงคโปร์มาเล่นที่ไทย และคิดว่าอาจได้เปรียบเล็กๆ ที่ผมได้ศึกษาข้อมูลของนักเตะไทยจากพวกเขา อย่างไรก็ตามโดยรวมทีมชาติไทยก็ยังแข็งแกร่ง แต่เรายืนยันว่า เราไม่กลัว และอะไรก็เกิดขึ้นได้” กุนซือสิงคโปร์กล่าว
สำหรับทีมชาติไทยมีสถิติที่ดียามพบกับสิงคโปร์ ในศึกชิงแชมป์อาเซียน เมื่อ 8 นัดที่ผ่านมา ชนะ 4 เสมอ 2 และแพ้ 2 นัด ที่สำคัญ 3 นัดหลังสุดที่เจอกันยังเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะได้ทุกนัด เริ่มจากรอบชิงชนะเลิศ นัดที่ 2 เมื่อปี 2012 ที่เปิดบ้านชนะ 1-0 ตามด้วยรอบแบ่งกลุ่ม ปี 2014 และปี 2016 ที่ชนะด้วยสกอร์ 2-1 และ 1-0 ตามลำดับ
