เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. เปิดเผยการจัดซื้อจัดจ้าง โครงการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลด้วยระบบไบโอเมตทริกซ์ ว่า โครงการดังกล่าวเดินหน้ามาแล้ว 2 ปี ซึ่งนานาประเทศ ต่างก็รับเข้ามาใช้ อีกทั้งก่อนหน้านี้ ระบบดังกล่าวยังสามารถช่วยตรวจจับแก๊งฟอกเงินชาวจีนที่ปลอมสัญชาติเป็นชาวมาเลเซีย ลอบเข้ามายังด่าน ตม.ของท่าอากาศยาน ได้จะเห็นว่าประโยชน์จริงๆ ของระบบดังกล่าวนั้นมีอยู่มาก ลำพังเพียงพาสปอร์ตคงทำไม่ได้ เพราะต้องใช้สแกนใบหน้าและลายพิมพ์นิ้วมือทั้ง 10 ยืนยันตัวบุคคล
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวต่อสำหรับเรื่องความโปร่งใสนั้น โครงการดังกล่าวมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ร่วมกับกระทรวงไอซีที แต่ต้องถามกลับว่า นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ที่นำเรื่องไปยื่นต่อ ป.ป.ช. ตรวจสอบนั้น ได้รับใบสั่งมาจากใครหรือไม่ โดยก่อนหน้ายังมีกระแสว่าจะมีบริษัทอีกแห่งมาติดตั้งให้ฟรีนั้น ตนมองว่าของฟรีไม่มีในโลก เพราะเขาจะสามารถเข้าถึงข้อมูลความมั่นคงของประเทศไปด้วย ยืนยันว่าพร้อมที่จะให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ตรวจสอบ เพราะทำงานอย่างตรงไปตรงมา แม้จะมีข้อสงสัยว่าทำไมโครงการดังกล่าวถึงล่าช้า
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า อาจจะมีบุคคลที่เสียประโยชน์จากโครงการดังกล่าว ซึ่งปิดช่องทางเรียกผลประโยชน์ต่างๆ แต่หากโครงการนี้เสร็จสิ้นแล้ว จะประหยัดค่าดำเนินการในส่วนของด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ตนกำชับเจ้าหน้าที่ให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก เรารับเครื่องมือมาแล้วก็จะทำงานอย่างเต็มที่ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
/////
