ตัวแทนกลุ่มที่ “นักเรียนเลว” 4 คน ยื่นหนังสือถึงนายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการขอความชัดเจนในการบังคับใช้กฎการไว้ทรงผมของนักเรียน เพื่อให้ผู้ใหญ่ใน ศธ. รับรู้เรื่องนักเรียนจำนวนมากถูกโรงเรียนบังคับตัดผม ไม่เป็นไปตามระเบียบ ศธ. พร้อมทั้งแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ด้วยการ “ตัดผม” ตนเอง โดยนายประเสริฐรับหนังสือด้วยตนเอง
ตัวแทนนักเรียนเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาพวกตนเข้ามาที่ ศธ. จากการหารือกับ ศธ.ได้ข้อสรุปถึงการบังคับใช้กฎระเบียบ แต่ ศธ.ไม่อนุญาตให้เปิดเผยต่อสาธารณะ ซึ่งพวกตนเห็นว่าการหารือครั้งนี้ เป็นประโยชน์ต่อนักเรียนอย่างมาก หากได้รับการเผยแพร่ออกไป เพราะมีการตีความกฎกระทรวงที่คุ้มครองความเป็นมนุยษ์ของนักเรียน ซึ่งจากการหารือกับ ศธ.ครั้งนั้น ไม่มีการยืนยันชัดเจนจากเอกสารใดๆ ของ ศธ. พวกตนจึงทำหนังสือให้เผยแพร่ข้อหารือครั้งนั้นสู่สาธารณะ เพื่อให้เกิดความชัดเจน แต่เมื่อได้รับหนังสือตอบกลับ ไม่มีการพูดถึงเรื่องที่พวกตนหารือกับ ศธ.เลย จึงมายื่นหนังสืออีกครั้ง เพื่อให้ ศธ.ประกาศให้นักเรียนทราบโดยทั่วกันว่า ระเบียบกระทรวงว่าด้วยทรงผมของนักเรียนควรเป็นอย่างไร
หลังจากรับหนังสือร้องเรียน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เผยกับสื่อว่า หากโรงเรียนใดไม่ปฏิบัติตามมติ ศธ.จะส่งเจ้าหน้าที่ติดตามให้โรงเรียนทำตาม ทั้งนี้ จะทำหนังสือเร่งรัดให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เร่งรัดให้ทำตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 ต่อไป
เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศบังคับใช้ระเบียบว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 แต่กลับปรากฏว่า มีนักเรียนโพสต์ภาพ และเล่าเรื่องการปฏิบัติของครูและโรงเรียนที่ขัดแย้งกับประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ตัดผมนักเรียนในลักษณะเป็นการลงโทษ ขณะที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของโรงเรียนในเรื่องนี้ว่า ไม่เคารพกติกาเสียเอง และสะท้อนความคิดของครูยังติดในการใช้อำนาจตามความคิดความเชื่อของตนเอง ที่ไม่เข้าใจต้นสายปลายเหตุที่ต้องออกระเบียบนี้ ซึ่งกระทรวงน่าจะทำความเข้าใจกับโรงเรียนและครูใหม่อย่างเป็นระบบ
