กอร์ปศักดิ์ เห็นด้วย กู้เงินแก้วิกฤต แต่อย่าจัดงบแบบเดิม หวั่นไม่กระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เขียนข้อความทางทวิตเตอร์ แสดงความเห็นเรื่องงบประมาณ แผ่นดิน ระบุว่า
ชวนคุยเรื่องงบประมาณ 3 ตัวเลขสำคัญในการจัดงบประมาณ คือ รายรับ รายจ่ายและเงินกู้..ตัวเลขรายรับมาจากประมาณการ ส่วนรายจ่าย เงินกู้เป็นตัวเลขที่รัฐฯกำหนด
ถ้ารัฐฯต้องใช้เงินมาก จำต้องกู้มากตาม รัฐฯอาจตั้งประมาณการรายรับให้สูง ตัวเลขกู้จะได้ไม่น่าเกลียด ไม่โดนด่า..เป็นเทคนิคในการจัดงบ
ดูจากงบ 63 ประมาณการรายรับ 2.731 ล้านล้านบาท เก็บได้จริง 2.391 ล้านล้านบาท หายไป 339,293 ล้านบาท ที่เตรียมกู้ไว้ 469,000 ล้านลาท จึงไม่พอ แถมไม่ยอมปรับลดรายจ่าย ทำให้ต้องกู้เพิ่มอีกเพื่อปิดหีบงบประมาณการรายรับที่พลาด อาจเป็นเพราะตั้งสมมุติฐานเศรษฐกิจดีเกินไป แถมยังเจอโควิดอีก เดินต่อไม่เป็นเลย
งบ 65 ที่จะเข้าสภา 3 ตัวเลขสำคัญ
1. รายได้ 2.4 ลลบ.ประมาณการต่ำกว่าเมื่อปี 62..สะท้อนความจริงมากขึ้น คงเข็ด กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
2. เงินกู้ 7 แสนลบ.วันนี้ไม่ใช่ประเด็น
3. รายจ่าย3.1ลลบ.รับได้ ขออย่างเดียว ทุจริตที่กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ต้องทำจริง ไม่ปล่อยให้โกงเป็นอันขาด
จัดงบประมาณแนวนี้ ในช่วงวิกฤตอย่างนี้ ส่งสัญญานว่ารัฐจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยใช้เงินกู้จากกฎหมายพิเศษ จะไม่ใช้เงินจากกฎหมายงบประมาณปกติ
กู้เงินเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยใช้กฎหมายพิเศษไม่ใช่ของใหม่ของรัฐบาล ทำมาแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งแจกเงิน ทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลงทุน
เห็นด้วยที่ใช้กฎหมายพิเศษ แต่ต้องไม่ทำอย่างที่เคย ครั้งนี้ต้องเร่งให้เกิดขึ้นเร็ว โปร่งใส ตรวจสอบได้
ทบทวนว่าครั้งก่อนทำอย่างไร..เงินที่ใช้แจกผู้เดือดร้อน ตรงนี้ดี เงินถึงมือ เสียดายที่เม็ดเงินไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม เพราะทยอยแจก ไม่เกิดตัวคูณทางเศรษฐกิจ ได้แค่เยียวยา
อีกส่วน( 4 แสนลบ.) ที่ใช้ในโครงการลงทุน ตรงนี้สอบตก เพราะให้หน่วยงานเป็นผู้เสนอ วิ่งเต้นกันฝุ่นตลบกว่าโครงการจะคลอด ล่าช้าไปมากไม่คุ้มที่อุตส่าห์ออกกฎหมายพิเศษเพื่อความรวดเร็ว ครั้งนี้ขอร้องครับ ต้องเปลี่ยนแนวคิดใหม่ ไม่ให้หน่วยงานเสนอ ส่วนบนเป็นผู้สั่งการลงไปเท่านั้น
ข้อเสนอ..ทีมเศรษฐกิจต้องตกผลึกให้ได้ว่ายุทธศาสตร์ระยะสั้น 1-2 ปี ในการหารายได้เข้าประเทศจะมาจากส่วนไหน แล้วทุ่มเงินให้ระบอบราชการ โครงสร้างพื้นฐานและนโยบายภาษีส่งเสริมให้ธุรกิจนั้นมีความเป็นเลิศ..ส่งออก ท่องเที่ยว เกษตร..จัดลำดับความสำคัญให้ดี ทำเฉพาะที่เราเก่งเท่านั้นเป็นพอ
