อาจารย์มช. เยี่ยมนักต่อสู้เพื่อสิทธิที่ดิน ชี้ ปฎิรูปที่เป็นธรรมเกิดเฉพาะสังคมปชต.

วานนี้ (1 มิ.ย. 59) ประชาธรรมรายงานว่า ที่เรือนจำลำพูน คณาจารย์คณะสังคมศาสตร์ – มนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เดินทางมาเยี่ยมแกนนำนักต่อสู้เพื่อสิทธิที่ดินทำกินชาวบ้านบ้านแพะใต้ ต.หนองล่อง อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ที่ถูกตัดสินจำคุก7 คน เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมาจากกรณีพิพาทปัญหาที่ดินทำกินกับนายทุนซึ่งต่อสู้ยืดเยื้อมายาวนานถึง 19 ปี

สำหรับกลุ่มคณาจารย์มช.นำโดย รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล คณะนิติศาสตร์ ศ.ดร.อรรถจักร สัตยานุรักษ์ ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยอาจารย์และนักศึกษาร่วม 10 คน เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจกับนักต่อสู้เพื่อสิทธิที่ดินทำกินจังหวัดลำพูนที่ถูกตัดสินใจจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา ได้แก่ 1.นายสุแก้ว ฟุงฟู 2.นายพิภพ หารุคำจา 3.นายสองเมือง โปยาพันธ์ 4.นายวัลลภ ยาวิระ 5.นายวัลลภ ไววา 6.นางคำ ซางเลง 7.นางบัวไร ซางเลง การเดินทางมาเยี่ยมครั้งนี้เพื่อต้องการให้กำลังใจนักต่อสู้ทั้ง 7 คน และอาจหาแนวทางช่วยเหลือ เยียวยา ตลอดจนถึงอาจต้องมีการทบทวนปัญหาเรื่องที่ดินทำกินที่กำลังเป็นปัญหาทั่วประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการเยี่ยมพบว่า เมื่อนักต่อสู้เพื่อสิทธิที่ดินทำกินบ้านแพะใต้ทั้ง 7 คน พบคณาจารย์ ทนายความ และนักพัฒนาเอกชน ที่ต่อสู้ด้วยกันมาตลอดถึงกับตาแดง น้ำตาไหล บางคนถึงกับร้องไห้ โดยนักต่อสู้รายหนึ่งกล่าวฝากถึงพี่น้องที่ต่อสู้ด้วยกันมาให้ทำหน้าที่ข้างหลังต่อจากนี้ให้ดีที่สุด อย่าให้เป้าหมายหรืออุดมการณ์เพื่อความเป็นธรรมต่อคนจนสูญหาย

รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์จากภาควิชานิติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวภายหลังว่า หากพูดถึงปัญหาเรื่องสิทธิที่ทำกินของชาวบ้าน เป็นปัญหาใหญ่ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา สิ่งสำคัญที่สุด คือ โครงสร้างของสังคมไทยขณะนี้ อยู่ภายใต้การปกครองของประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย จึงยากมากที่จะทำให้เกิดการแก้ไขเชิงโครงสร้างได้ ซึ่งเท่าที่สังเกตปีที่ผ่านมา ปัญหาเรื่องที่ดินชาวบ้านถูกนำมาดำเนินคดีเพิ่มขึ้น ชาวบ้านถูกจับกุมในหลายพื้นที่แต่เรื่องกลับเงียบมาก

Advertisement

“กรณีบ้านแพะใต้ จ.ลำพูน เป็นปัญหาที่สั่งสมมานาน เแต่เราไม่มีความเข้มแข็งของสังคมที่จะผลักเรื่องนี้ ผมคิดว่าเราควรจะได้เห็นขบวนการต่อสู้ การเคลื่อนไหวผลักดันปัญหาที่มันกว้างขวางกว่านี้ แต่การปฏิรูปที่ดิน การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเกิดขึ้นไม่ได้ในสถานการณ์แบบนี้ เพราะการปฏิรูปมันหมายความว่าต้องเกิดการปรับโครงสร้างสถาบันนั้น ๆ ซึ่งมันจะต้องกระทบกับคนที่อยู่ในนั้น ฉะนั้น เมื่อไหร่ที่เราพูดถึงการปฏิรูป มันต้องการแรงผลักจากทุกฝ่าย ซึ่งไม่ใช่แรงผลักจากผู้มีอำนาจอย่างเดียว แต่มันต้องการแรงผลักดันของสังคม เช่น การออกภาษีที่ดิน ผมพนันได้เลย มันไม่ออกในรัฐบาลชุดนี้แน่ เพราะมันกระทบกับคนมีอำนาจ ซึ่งคนมีอำนาจก็อยู่ข้าง ๆ รัฐบาลนั้นแหละ”

“ส่วนการปฏิรูปมาตลอดในช่วงสองปีที่ผ่านมา มันเป็นเพียงคำใหญ่ ๆ ที่ถูกนำเสนอในเชิงสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับผู้อำนาจทางการเมืองในขณะนี้เท่านั้น การปฏิรูปไม่เกิดขึ้นตอนนี้ เพราะเราไม่มีแรงผลักจากสังคม และผมไม่เชื่อเรื่องการล็อบบี้” รศ.สมชาย กล่าวทิ้งท้าย.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image