‘ทีพีไอ โพลีน’ เร่งเครื่องเต็มสูบ ทุ่มงบเข้าประมูลโครงการใหม่ คงเป้ารายได้ปี 63 โกย 13,000 ล้านบาท

ทีพีไอ โพลีนเร่งเครื่องเต็มสูบ ทุ่มงบเข้าประมูลโครงการใหม่ คงเป้ารายได้ปี 63 โกย 13,000 ล้านบาท

บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP คงเป้าหมายรายได้ปีนี้ 13,000 ล้านบาท หลังไตรมาส 1/63 ทำรายได้แล้ว 2,535 ล้านบาท พร้อมทุ่มงบลงทุนกว่า 4,700 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ Boiler คาดแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3/63 หนุนอัตราใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 95% และนำไปใช้ขยายกำลังการผลิตเชื้อเพลิงขยะ(RDF) ใน 10 จังหวัด ช่วยลดต้นทุน พร้อมเดินหน้าเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ และตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งเป็นกว่า 520 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567 จากปัจจุบันอยู่ที่ 440 เมกะวัตต์

นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน TPIPP เปิดเผยว่า บริษัทฯ คงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ 13,000 ล้านบาท หลังจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 ทำรายได้แล้ว 2,535 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.33% ที่มีรายได้ 2,430 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 967 ล้านบาท ซึ่งหากไม่นับรวมกับการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน บริษัทฯ จะมีผลกำไรจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 1,024 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 974 ล้านบาท และปัจจุบันยังในระหว่างการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) ของโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 95%

ทั้งนี้ บริษัทฯพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งเป็นกว่า 526 เมกกะวัตต์(MW) ภายในปี 2567 จากปัจจุบันอยู่ที่ 440 เมกกะวัตต์ โดยภาครัฐมีแผนเปิดประมูลโครงการโรงไฟฟ้าจากขยะประมาณ 40 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 500 เมกกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนแบบVSPP ที่มีกำลังการผลิตติดตั้งต่ำกว่า 10 MW จำนวน 30 โครงการ และโรงไฟฟ้าของผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ที่มีกำลังการผลิตติดตั้ง 10-30 MW อีก 5-10 โครงการ ทั้งนี้คาดว่าภาครัฐจะเริ่มทยอยเปิดประมูลโรงไฟฟ้าทั้ง 2 กลุ่มในปีนี้ได้ประมาณ 10-12 โครงการ  โดยบริษัทฯ จะเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ VSPP และ SPP ดังกล่าว ซึ่งโรงไฟฟ้าเหล่านี้คาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ตั้งแต่ปี 2566

ปัจจุบันบริษัทฯ มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ จึงมีความพร้อมเข้าร่วมประมูล โดยจะพิจารณาโครงการที่มีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) เหมาะสมกับความเสี่ยงของโครงการ เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับที่ดีนายภัคพลกล่าว

Advertisement

นายภัคพลกล่าวว่า นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังดำเนินการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Southern Seaboard) ในชื่อจะนะ เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตในพื้นที่ .จะนะ .สงขลา ตามมติ กพต. และมติ ครม. ซึ่งต้องการให้พัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้เป็น Energy Complex ที่สะอาด ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหมือนที่ บมจ. TPI เคยพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) มาแล้วสมัย นายกรัฐมนตรี พลเอก เปรมติณสุลานนท์ และ พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ ซึ่งโครงการนี้จะนำความเจริญมาสู่จังหวัดสงขลาและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการสร้างงานและความมั่งคั่งให้ชาวไทย เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image