ตร.ออกหมายเรียกเจ้าของร็อตไวเลอร์แต่ไม่พบเจ้าตัว เพื่อนบ้านเผยเคยบุกกัดไก่
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีสุนัขร็อตไวเลอร์ 3 ตัว ของชาวต่างชาติ รุมกัดสุนัขไทยบางแก้วของหญิงสาวเจ้าของบังกะโลที่กระบี่ จนเจ้าของสุนัขบางแก้ว เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองกระบี่ ไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 22 ก.ย. ร.ต.ท.วิรัช ชนะสิทธิ์ รอง สวป.สภ.เมืองกระบี่ พร้อมตำรวจท่องเที่ยว จ.กระบี่ นำหมายเรียกของ สภ.เมืองกระบี่ ครั้งที่ 1 ลงวันที่ 22 ก.ย.63 ไปพบกับเจ้าของสุนัขร็อตไวเลอร์ ที่บ้านเลขที่ 328 หมู่ 5 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ โดยบ้านหลังดังกล่าวทราบว่าเป็นบ้านที่ชาวต่างชาติที่เป็นเจ้าของสุนัขร็อตไวเลอร์เช่าพักอยู่ ห่างจากบังกะโลที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร พบที่บ้านเป็นบ้านแบบมีรั้วปิดทึบรอบบ้าน หมายเรียกดังกล่าวระบุข้อกล่าวหาว่า ควบคุมสัตว์ดุหรือสัตว์ร้าย ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นเที่ยวโดยลำพังในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ จึงขอให้เจ้าของสุนัขไปพบกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ ในวันที่ 23 ก.ย.นี้ ทั้งนี้ตำรวจไม่พบตัวเจ้าของสุนัขร็อตไวเลอร์ที่บ้านหลังดังกล่าว จึงนำหมายเรียกแปะไว้ที่ประตูหน้าบ้านเพื่อให้เจ้าตัวรับทราบ โดยข้อหาดังกล่าว มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหากเจ้าของสุนัขทั้ง 3 ตัวยังไม่มาพบพนักงานสอบสวน ก็จะออกหมายเรียกอีกครั้ง ครั้งที่ 2 หากยังไม่ยอมมาพบ ก็จะรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินการออกหมายจับตามขั้นตอนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรยากาศภายในบ้านดังกล่าว จนท.พบภายในบริเวณบ้านมีซากรถยนต์จอดอยู่หลายคัน มีทั้งรถยนต์ป้ายทะเบียนประเทศไทย และรถยนต์ป้ายทะเบียนประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะมีการประสานให้ชุดสืบสวนตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.กระบี่ จะตรวจสอบอีกครั้งว่าซากรถเหล่านี้เป็นของใคร และนำเข้ามาจอดอยู่ได้อย่างไรจำนวนหลายคัน
ผู้สื่อข่าวไปสอบถาม นายทรงวุฒิ แซ่เต็ม อายุ 53 ปี เพื่อนบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของชาวต่างชาติคนดังกล่าว เผยด้วยว่า ที่ผ่านมาตนก็พบสุนัขทั้ง 3 ตัวบ่อยครั้ง โดยสุนัขจะออกมาช่วงเช้าแล้วเข้าบ้านไป ทำให้ตนก็ไม่กล้าที่จะเดินไปที่ข้างบ้านหลังดังกล่าว นอกจากนั้นไก่ของตนที่เลี้ยงไว้หลายตัวก็เคยถูกสุนัขทั้ง 3 ตัวกัดตายแล้วหลายตัวเช่นกัน ซึ่งก็ทำให้หวาดผวาพอสมควร จึงอยากให้ทางเจ้าของสุนัขต้องล่ามไว้ให้ดีไม่ปล่อยออกมาเพ่นพ่านเช่นนี้
ขณะที่นายสุวพล ภู่แสนพงศ์ พี่ชายของ น.ส.ฤทัยรัตน์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า วันเกิดเหตุ น.ส.ฤทัยรัตน์ โทรมาร้องไห้กับตนอย่างหนัก ซึ่งตนก็บอกให้ไปแจ้งความและคุยกับเจ้าของสุนัข เพื่อหาทางเจรจากัน โดยการเลี้ยงสุนัขนั้นจะต้องไม่ปล่อยออกมาเช่นนี้ โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์ดุร้ายอย่างร็อตไวเลอร์ ที่ผ่านมาก็มีชาวบ้านไปบอกและเตือนเจ้าของสุนัขดังกล่าวแล้วก็ไม่ฟัง ยังปล่อยสุนัขออกมาจากบ้านบ่อย ๆ โชคดีที่ไม่มีเด็กเล็กเดินอยู่ ไม่เช่นนั้นก็คงถูกสุนัขกัดด้วย หลังจากนี้จึงขอให้ทางตำรวจเร่งดำเนินการนำเจ้าของสุนัขมาเจรจากันเพื่อยุติปัญหา.
