วันที่ 15 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำเสียในสระบัวบริเวณชายหาดแหลมสมิหลา ในเขตเทศบาลนครสงขลายังอยู่ในขั้นวิกฤต ทำให้ปลาน้อยใหญ่ยังคงลอยตายเกลื่อนสระต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 และจำนวนปลาที่ตายเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากเมื่อวันที่ 14 มี.ค. และมีปลาอีกจำนวนมากที่อยู่ในสภาพลอยคอขึ้นมาหายใจเหนือน้ำเพื่อเอาชีวิตรอด ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลนครสงขลาเร่งเก็บซากปลาที่ตายขึ้นจากสระโดยมีโรงงานปลาป่นมารอรับซื้อ เพื่อนำไปทำเป็นอาหารสัตว์กิโลกรัมละ 4 บาท โดยไม่ต้องเอาไปฝังหรือกำจัดซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นายสมชาย จันทร์ประทิน รองนายกเทศบาลนครสงขลา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพน้ำเสียในสระบัวพบว่ามีสาเหตุมาจากท่อน้ำทิ้งจากคูเมืองรั่วไหลเข้ามาในสระบัวทำให้น้ำในสระเน่าเสีย ประกอบกับในช่วงนี้สภาพอากาศร้อนและน้ำในสระลดระดับลง ทำให้น้ำขาดออกซิเจน ปลาจึงเกิดภาวะช็อกตาย ซึ่งมีทั้งปลาตะเพียน ปลากราย และปลาดุก
นายสมชายเปิดเผยว่าว่า ทน.สงขลาได้เร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการติดตั้งน้ำพุ 2 จุด และทำงานต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำให้ปลารอดชีวิตมากที่สุด เตรียมนำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งและสูบน้ำเสียออกทั้งหมด และเติมน้ำดีเข้าไปแทน จะเร่งดำเนินการแก้ปัญหาให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อฟื้นฟูบรรยากาศสระบัวให้กลับมาดีเหมือนเดิม พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนหย่อนใจ
