ทฤษฎีใหม่..ไม่มีปฏิวัติอีก โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

มีข่าวพยากรณ์อากาศระบุว่า ในช่วงวันที่ 17-19 มีนาคมนี้ เป็นช่วงที่คาดการณ์ไว้ว่า อุณหภูมิจะสูงมากที่สุดในรอบ 50 ปี เพราะมวลอากาศร้อนจากมหาสมุทรแปซิฟิกเข้ามาปกคลุมทำให้เกิดฮีตเวฟ (Heat wave) ได้ โดยอากาศจะร้อนที่สุดในช่วงเดือนเมษายนเพราะพระอาทิตย์ตั้งฉาก อุณหภูมิอาจจะสูงถึง 44 องศาในช่วงกลางวัน

แปลความได้ว่า ทั้งช่วงปลายเดือนนี้ไปจนถึงเดือนหน้าคือเมษายน จะเป็นปีที่อากาศร้อนเป็นประวัติการณ์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งประชาชนจะต้องเตรียมตัวรับมือให้ดี

แต่ที่กรมอุตุฯไม่ได้พูดถึง คืออุณภูมิทางการเมือง ซึ่งเริ่มร้อนระอุมากขึ้นๆ โดยเฉพาะการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

เมื่อมีข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงบทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญจาก คสช. หรือที่เรียกกันว่าข้อเสนออันไม่อาจปฏิเสธได้

Advertisement

สาระสำคัญคือ ให้เขียนรัฐธรรมนูญในบทเฉพาะกาล ให้มี ส.ว.ชุดแรก มาจากการสรรหา ให้มีจำนวน 250 คน มาจากคณะกรรมการที่เป็นอิสระและเป็นกลาง 8-10 คน มีวาระ 5 ปี

ให้ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.สูงสุด ผบ.ทบ. ผบ.ทร. ผบ.ทอ. ผบ.ตร. เข้ามาเป็น ส.ว.โดยตำแหน่ง และหากผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งราชการไป ก็ให้ผู้ดำรงตำแหน่งใหม่เข้ามาแทน

ยิ่งเมื่อประกอบกับอำนาจของ ส.ว.ซึ่งสามารถควบคุมตรวจสอบรัฐบาลได้อย่างเข้มข้น จึงยิ่งเป็นประเด็นที่ร้อนฉ่าไม่แพ้มวลอากาศร้อนจากมหาสมุทรแปซิฟิก

Advertisement

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรัฐมนตรีกลาโหม ได้พยายามอธิบายถึงกรณี 6 ข้าราชการใหญ่ของกลาโหม เหล่าทัพและตำรวจ ที่ต้องมีโควต้าใน ส.ว.ชุดใหม่ว่า

เพื่อไม่ให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหารขึ้นอีก

ทั้งนี้ บิ๊กป้อมพยายามบอกกล่าวกับสังคมว่า หากให้ ผบ.เหล่าทัพต่างๆ มีที่ทางใน ส.ว. จะได้เข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ฝ่าย ส.ส.ที่มาจากเลือกตั้งเอง ก็สามารถเข้าพบปะพูดจากับ ผบ.เหล่าทัพเหล่านี้ได้

คล้ายกับว่า ถ้าจัดให้ผู้นำกลาโหมและเหล่าทัพอยู่ในสภา ก็เป็นเวทีที่เปิดให้ทั้งฝ่ายกุมกำลังและฝ่ายการเมืองได้พบปะพูดคุยกันได้

นี่จึงคล้ายเป็นสูตรใหม่หรือทฤษฎีใหม่ ในการป้องกันไม่ให้มีปฏิวัติรัฐประหาร ที่ พล.อ.ประวิตรนำเสนอ

แต่ความเห็นของฝ่ายอื่น มองว่านี่เสมือนเป็นการรัฐประหารซ่อนรูปมากกว่า

แน่นอนว่า พล.อ.ประวิตรปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ใช่รัฐประหารซ่อนรูป แต่เป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดรัฐประหารมากกว่า

ถึงที่สุดแล้วประชาชนจะสามารถพิจารณาได้เองว่า มันคืออะไรกันแน่

กระแสสังคมโดยรวมจะยอมรับว่า วิธีเปิดเวทีให้เหล่าทัพเข้ามามีบทบาทอำนาจใน ส.ว. จะเป็นช่องทางสำหรับการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองด้วยการพูดคุยเจรจา เพื่อไม่ต้องมีการลากรถถังออกมาอีก

หรือจะมองว่าก็แค่เปลี่ยนวิธีรัฐประหารเป็นแบบใหม่

คงจะต้องเงี่ยหูฟังกระแสเสียงของชาวบ้านส่วนใหญ่กันต่อไป

ขณะเดียวกัน ข้อเสนอของ คสช.ดังกล่าวนี้ ยังต้องขึ้นกับการพิจารณาของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ.ของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์

จะยอมให้กลายเป็นข้อเสนออันปฏิเสธไม่ได้ทั้งหมด หรือจะรับแค่บางส่วน

นี่จะเป็นอีกเหตุการณ์สำคัญ ที่อาจทำให้อุณหภูมิของประเทศไทยพุ่งปรี๊ดได้ในเร็ววันนี้

ไปจนถึงวันประชามติที่กำหนดไว้ในเดือนสิงหาคม อาจจะร้อนรุ่มยิ่งกว่าอากาศเมษายนอีกก็เป็นได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image