วันที่ 9 มีนาคม 2561 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานประชุมเพื่อเตรียมการขับเคลื่อนการเก็บข้อมูลพิสูจน์ตัวบุคคลแรงงานต่างด้าว และการจัดทำปรับปรุงทะเบียนประวัติแรงงานต่างด้าวที่ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (OSS) ที่กระทรวงแรงงาน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ใช้เวลาหารือนานกว่า 2 ชั่วโมง
จากนั้น พล.ต.อ.อดุลย์เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า ขณะนี้การเก็บอัตลักษณ์แรงงานต่างด้าวในกิจการประมงทะเลและแปรรูปสัตว์น้ำด้วยเครื่องสแกนม่านตา (Iris Scan) มีทั้งหมด 203,238 คน ดำเนินการแล้ว 93,528 คน คงเหลือ 109,701 คน ขณะที่มีเครื่องสแกนม่านตาทั้งหมด 30 เครื่อง ซ่อมแซมแล้วที่ใช้งานได้ 29 เครื่อง ที่ประชุมจึงมีมติปรับแผนการทำงานโดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการใน 7 จังหวัดที่มีแรงงานประมงทะเลหนาแน่น และจัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่ (โมบาย) ลงไปถึงที่ตั้งของสถานประกอบกิจการจำนวน 12 จุด ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีแรงงานประมงทะเลมากที่สุด รองลงมา จ.สมุทรปราการ จ.ระยอง จ.ระนอง จ.ปัตตานี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.ชุมพร ทั้งนี้ ประเมินในเบื้องต้นว่าเครื่องสแกนม่านตาที่ใช้งานได้ 29 เครื่อง เพียงพอที่จะเก็บอัตลักษณ์แรงงานต่างด้าวกลุ่มประมงทะเลได้เสร็จทันเวลาโดยไม่ต้องจัดซื้อเพิ่มเติม
“แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การทำงานราบรื่น ไม่ติดขัด ได้เตรียมแผนเช่าเครื่องสแกนม่านตาจากภาคเอกชนเพื่อสำรอง หากเครื่องที่มีอยู่ชำรุดในระหว่างนี้ โดยคาดว่าประมาณวันที่ 25 มีนาคมนี้จะมีความคืบหน้าไปมาก” พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวและว่า ในส่วนของศูนย์โอเอสเอสนั้น ขณะนี้มีแรงงานต่างด้าวคงเหลือที่ต้องดำเนินการ 1,330,256 คน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่พิสูจน์สัญชาติแล้วคงเหลือประมาณ 9 แสนคน จะลดขั้นตอน ลดเวลา เพื่อให้สามารถบริการได้รวดเร็วขึ้น โดยปรับการทำงานเน้นให้ประทับตราวีซ่าให้ทำงานได้ถึงปี 2563 และออกใบอนุญาตทำงานเพื่อให้สามารถทำไปได้ก่อน แต่ต้องดำเนินการตรวจสุขภาพให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา สำหรับกลุ่มที่ยังไม่พิสูจน์สัญชาติ ซึ่งคงเหลือประมาณ 6 แสนคน เน้นให้เข้าศูนย์พิสูจน์สัญชาติดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อให้สามารถทำงานได้ถึงปี 2563 เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ยังมีแรงงานต่างด้าวตกค้างอีกจำนวนมาก แต่จะครบกำหนดในวันที่ 31 มีนาคมนี้ รัฐบาลมีแผนจะขยายเวลาอีกหรือไม่ พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ขอดูก่อน เบื้องต้นขอทำให้เต็มที่ก่อน
เมื่อถามต่อว่า ล่าสุดนายกรัฐมนตรีตำหนิว่าทำงานล่าช้า รู้สึกท้อแท้หรือไม่ พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ไม่ท้อ เพราะได้ทำงานอย่างเต็มที่แล้ว
“วันนี้ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ ทำงานกันจนดึกดื่น และในวันหยุดก็ต้องทำ ขณะนี้เราได้ปรับแผนการทำงานใหม่ เพิ่มคน เพิ่มอุปกรณ์ และลงไปถึงสถานประกอบการแล้ว เชื่อว่าจะดีขึ้น ซึ่งจากนี้ไปอีก 1 สัปดาห์ จะขอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง แต่เชื่อว่าเสร็จทันกำหนด” พล.ต.อ.อดุลย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 11 มีนาคมนี้ พล.ต.อ.อดุลย์มีกำหนดจะลงพื้นที่ไปติดตามผลการปรับแผนพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวที่ จ.สมุทรสาคร เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีแรงงานต่างด้าวภาคประมง จำเป็นต้องเก็บอัตลักษณ์ส่วนบุคคลด้วยเครื่องสแกนม่านตามากที่สุด โดยมีการนำทีมเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องสแกนม่านตาไปให้บริการเพิ่มเติม
