5 นศ.แพทย์ รับพระราชทานทุน ‘ เจ้าฟ้ามหิดล ’
เจ้าฟ้ามหิดล – เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ โถงสร้างแรงบันดาลใจ อาคารหอสมุดศิริราช ชั้น 4 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) คณะกรรมการดำเนินโครงการเยาวชนรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มม. และกระทรวงการต่างประเทศ จัดงานแถลงข่าว “ผลการตัดสินผู้ได้รับพระราชทานทุนโครงการเยาวชนรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2561”
โดยมีศ.คลินิก นพ.สุพัฒน์ วาณิชย์การ เลขาธิการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย นางบุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ประธานคณะกรรมการอำนวยการโครงการเยาวชนรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล ประธานคณะกรรมการดำเนินการโครงการเยาวชนรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล และ ศ.นพ.สมภพ ลิ้มพงศานุรักษ์ ประธานคณะกรรมการคัดเลือกโครงการเยาวชนรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ร่วมแถลงข่าว
โดย ผู้ได้รับพระราชทานทุน “โครงการเยาวชนรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล” ประจำปี 2561 มีทั้งหมด 5 ราย ได้แก่ 1.นายกัญจน์พัฒณ์ เตมหิวงศ์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2.นายจารุพงษ์ แสงบุญมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 3.นายปุญญภัทร มาประโพธิ์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล 4. นางสาวพิชชาทร ศุภกิจจานุสันติ์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และ 5.นายสรวงสรรค์ สุภาพผล คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ มีผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นผู้รับพระราชทานทุนโครงการเยาวชนรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2561 ทั้งสิ้น 21 ราย จาก 9 สถาบัน โดยผ่านเกณฑ์ตามคุณสมบัติของโครงการเยาวชนฯ 5 ราย และคณะกรรมการคัดเลือกโครงการเยาวชนฯ ได้พิจารณากลั่นกรองคัดเลือกและนำเสนอต่อคณะกรรมการมูลนิธิฯ ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธาน ได้พิจารณาตัดสินเป็นขั้นสุดท้าย
สำหรับ “โครงการเยาวชนรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล” จัดตั้งขึ้นภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยที่รักและมุ่งมั่นในวิชาชีพด้านการแพทย์ ดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ในการแก้ปัญหาสาธารณสุขของประเทศไทย และเพื่อสร้างสรรค์สุขภาพอนามัยของมวลมนุษยชาติ
โดยผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้รับพระราชทานทุนไปปฏิบัติงานด้านการศึกษาวิจัย ฝึกปฏิบัติวิชาชีพ หรือทำงานด้านการพัฒนาชุมชน ในต่างประเทศหรือในประเทศเป็นเวลา 1 ปี โดยจะได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่างๆ และให้นับเวลาการไปครั้งนี้ รวมเป็นเวลาของการใช้ทุนหลังจากศึกษาแพทย์จบแล้วด้วย
