พลันที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ออกมาแถลงอย่างชนิดยาวเหยียด เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน เรื่องความจำเป็นที่พรรคพลังประชารัฐจะต้องยึดโควตากระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เพราะตลอดการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พรรคพลังประชารัฐได้ยืนยัน
และให้”สัจจะวาจา”ไว้กับประชาชน
ก็พอจะอ่านได้ว่า ปัญหาในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลระหว่าง พรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์อยู่ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นี้เอง
เพราะเมื่อพรรคพลังประชารัฐไม่สามารถให้”คำตอบ”ได้ภาย ในเวลา 17.00 น.ของวันที่ 28 พฤษภาคม
ก็ไม่มีคำตอบว่าจะร่วมหรือไม่จากพรรคประชาธิปัตย์
ต้องยอมรับการแถลงของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เมื่อปลายสัปดาห์ก่อนเป็นการแถลงที่ยาวเหยียดเป็นอย่างมากสำหรับ นาย สมศักดิ์ เทพสุทิน
ในนั้นนอกจากให้เหตุผลว่าทำไมตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ควรจะเป็นของพรรคพลังประชารัฐ
และควรจะเป็นของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แล้ว
ลูกเล่นของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เมื่อประสบเข้ากับคำถาม ที่ว่าหากไม่ได้เป็นจะทำอย่างไรก็คือ
“ร้องไห้”
อย่าลืมว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เคยร้องไห้มาแล้วเมื่อต้องสูญเสียตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้กับ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
และอย่าลืมว่าตำแหน่งล่าสุดในพรรคพลังประชารัฐของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน คือ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์หาเสียง ของพรรค
นี่คือพลัง นี่คือความชอบธรรมของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน
แถลงของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จึงเท่ากับ 1 เป็นคำตอบให้กับข้อเรียกร้องอันมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ขณะเดียวกัน 1 เป็นการ ยืนยันต่อทุกระดับในคสช.และพรรคพลังประชารัฐ
เช่นนี้เองจึงไม่มี “คำตอบ”จากพรรคพลังประชารัฐ
นี่คืออีก”ล็อก”ทางการเมืองที่จะมีผลสะเทือนอย่างลึกซึ้งต่อทั้งพรรคพลังประชารัฐและต่อพรรคประชาธิปัตย์
คำตอบเห็นได้จากมือของพรรคประชาธิปัตย์ในที่ประชุม