09.00 INDEX คำตอบจาก พลังประชารัฐ ต่อประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย
ขณะที่ไม่ว่า นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ จะดำรงคำตอบที่ว่า การจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรียังต้องหารือกันต่อ
คำตอบอันมาจากรองโฆษกพรรคและพันธมิตรในแนวร่วมแห่งพรรคพลังประชารัฐดุเดือดอย่างยิ่ง
รองโฆษกพรรคพุ่งเป้าเข้าใส่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ขณะที่พันธมิตรในแนวร่วมที่ใกล้ชิดอย่างยิ่งกับพรรคพลังประชารัฐที่มี 11 ส.ส.อยู่ในมือยืนยันโควตาของพวกเขาจะต้องได้ 3 ตำแหน่ง
ไม่ว่าเสียงจากรองโฆษก ไม่ว่าเสียงจากพันธมิตรอันมี 11 ส.ส.อยู่ในมือคล้ายกับจะเป็นคำตอบ
คำตอบไปยังพรรคประชาธิปัตย์ ไปยังพรรคภูมิใจไทย
ความเป็นจริงที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ หาก 11 ส.ส.จากพรรคขนาด จิ๋วเพิ่มโควตาของตนจาก 2 เป็น 3 นัยประหวัดจะนำไปสู่ข้อเรียก ร้องจาก 13 ส.ส.ภาคใต้พรรคพลังประชารัฐโดยพลัน
จุดเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญก็คือ หาก 10 เสียงจากพรรคชาติไทยพัฒนาได้ 2 ตำแหน่ง
แล้วจะเกลี่ยโควต้าให้กับ 13 ส.ส.ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐอย่างไร แล้วจะประเมินบทบาทและความหมายของ 11 ส.ส.จาก 11 พรรคการเมืองอย่างไร
เหมือนกับข้อเรียกร้องของ 13 ส.ส.ภาคใต้ และ 11 ส.ส.จาก 11 พรรคการเมืองจะพุ่งไปยังพรรคพลังประชารัฐ
แต่ในอีกด้านหนึ่ง “ปฏิกิริยา” เหล่านี้เท่ากับเป็นคำตอบอันนำไปสู่คำถามต่อพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ว่าเหตุใดจึงต้องมีข้อเรียกร้องให้ “เกลี่ย” ตำแหน่งกันใหม่
ไม่น่าจะเป็นข้อเสนอจาก”กลุ่มสามมิตร”เท่านั้น หากน่าจะเป็นบทสรุปร่วมของพรรคพลังประชารัฐมากกว่า
การเมืองเป็นการประนีประนอมเพื่อแบ่งปัน “อำนาจ” อันได้มาจาก 500 เสียงในที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 5 มีนาคมอย่างแน่นอนและเด่นชัด
การแบ่งปันกับการแย่งยื้อ “อำนาจ” ในนามของนโยบายในนามของประชาชนนั่นแหละคือปัจจัยสำคัญ
เพียงแต่ภายในการแบ่งปันนั้น”ตะกอน”อันนอนก้นก็ปรากฏขึ้นมาในสายตาอันคมกริบของประชาชน
ประชาชนนั่นแหละจะเป็น”คำตอบ”สุดท้ายอย่างแท้จริง