“พาณิชย์” มั่นใจปีนี้ส่งออกโตตามเป้า8% ปีหน้าก็ไม่ต่างจากปีนี้ (มีคลิป)

นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยภายหลังการประชุมประเมินสถานการณ์การส่งออกประจำไตรมาสที่ 4 ร่วมกับนายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และตัวแทนจากภาคเอกชน ว่า จากการประเมินตัวเลขการส่งออกในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ทำให้มั่นใจว่าการส่งออกของไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ที่ 8% ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน ส่วนในปี 2562 ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกไว้ที่ 8% ซึ่งจากการเฉลี่ยดูตามรายตลาดแล้วพบว่า หลายตลาดยังมีความน่าสนใจมาก ทำให้จะมีการเน้นเจาะกลุ่มตลาดเหล่านี้ให้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มตลาดในแถบเอเชีย อาทิ จีน ฮ่องกง เอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และตลาดในกลุ่มของตะวันออกลางและแอฟฟริกา โดยกรมฯ จะร่วมมือกับเครือข่ายผู้นำเข้าจากประเทศต่างๆ ทำการตลาดเชิงรุกในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์มากขึ้น

นางสาวบรรจงจิตต์ กล่าวว่า กรมฯ มองว่ายังมีสินค้าใหม่ๆ ที่มีความน่าสนใจและเติบโตอย่างชัดเจนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อาทิ อาหารสัตว์เลี้ยง สินค้ากลุ่มสมุนไพร เครื่องสำอางค์ ผัก ผลไม้สดและแปรรูป ข้าวสีประเภทต่างๆ โดยการค้าออนไลน์จะเป็นส่วนช่วยเสริมให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง ซึ่งเชื่อมั่นว่าการค้าออนไลน์จะเป็นอีกหนึ่งแรงเสริมได้ ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่น่ากังวล เป็นเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา-จีน ที่ถึงแม้มีการพักรบชั่วคราว 90 วัน แต่ยังมีผลกระทบสืบเนื่องอยู่ รวมถึงราคาน้ำมัน และเศรษฐกิจโลกโดยรวม ซึ่งมีการประเมินสถานการณ์ต่างๆ ไว้ที่ระดับปานกลางยังไม่ชัดเจน ซึ่งคาดว่าไตรมาสแรกของปี 2562 จะเห็นผลชัดเจนมากขึ้น

นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนได้มีการหารือร่วมกันและได้คาดการณ์ว่าในปี 2562 การส่งออกสินค้าภาคการเกษตรจะขยายตัวขึ้น 3-4% และสินค้าภาคอุตสาหกรรมจะขยายตัวขึ้น 6-8% โดยสินค้าที่ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี ได้แก่ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ อาหาร วัสดุก่อสร้าง และน้ำมันสำเร็จรูป เป็นต้น ส่วนยางพาราปีนี้ที่ติดลบมากกว่า 20% นั้นมองว่า ปีหน้าจะมีโอกาสกลับมาขยายตัวได้ประมาณ 5% ขณะที่แนวโน้มการส่งออกปีหน้าภาคเอกชนคาดการณ์ว่าจะสามารถขยายตัวได้ในกรอบ 5-7% ทั้งนี้ ภาครัฐจะต้องเร่งเจรจาเปิดเขตการค้าเสรี หรือ FTA เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออก และการประกาศท่าทีต่อการเข้าร่วมเป็นสมาชิก CPTPP อย่างชัดเจนด้วย

นายสนั่น กล่าวว่า เบื้องต้นสินค้าที่ยังน่ากังวลคือ อัญมณีและทองคำที่ยังมีความผันผวนอยู่มาก รวมถึงยางพารา ที่สถานการณ์ยางพาราในปีนี้ติดลบถึง 20% ทำให้คาดว่าปีหน้ายางพาราจะขยายตัวเติบโตขึ้นได้ 5% ส่วนปัจจัยเสี่ยงของปีหน้า เป็นเรื่องของความผันผวนของราคาน้ำมัน และอัตราการแลกเปลี่ยนที่ในขณะนี้ ไทยเสียเปรียบประเทศเพื่อนบ้านหรือคู่แข่งอยู่แล้ว แต่เรื่องการส่งออกยังเชื่อว่า สถานการณ์สงครามการค้าระหว่าง 2 ประเทศจะส่งผลกระทบในแง่ลบต่อไทยได้น้อย เนื่องจากอุตสาหกรรมต่างประเทศที่ลงทุนในจีน และนักลงทุนของจีนเอง มีการขยายฐานการลงทุนไปสู่ประเทศอื่นเพิ่มขึ้น ทั้งไทยและเวียดนาม ซึ่งจะทำให้ฐานการผลิตสินค้าของไทยมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น สามารถทำการส่งออกไปได้หลากหลายประเทศมากขึ้น อาทิ ประเทศในกลุ่มยุโรป ที่เป็นฐานลูกค้าของกลุ่มนักลงทุนเหล่านี้อยู่แล้ว ไม่ใช่เพียงแค่สหรัฐฯ อย่างเดียว

Advertisement

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

Advertisement

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image