ครูโวยถูกรีด 2แสน แลกกลับภูมิลำเนา ร้องศธ.ตรวจสอบ-หวั่นแก้คะแนนโยกย้าย ‘โกศล’สรุปปราบทุจริตส่งไม้ต่อรัฐบาลใหม่
เมื่อวันที่ 10 เมษายน พล.อ.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้รับการร้องเรียนจากครู สอนวิทยาศาสตร์ โรงเรียนแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่าต้องการขอย้ายไปสอนในจังหวัดภูมิลำเนาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะต้องการดูแลแม่ที่ชราและเจ็บป่วย จึงทำเรื่องขอย้ายครูรอบแรกในวันที่ 1-15 มกราคม ไปยังคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) แต่กลับมีโทรศัพท์มาหาครูรายนี้ แจ้งว่าคณะกรรมการจัดทำคะแนนในการย้ายครูและบุคลากรทางการศึกษา กำลังพิจารณาจัดทำคะแนน ถ้าอยากย้ายจะให้เงินเท่าใด โดยราคาเริ่มต้นที่ 200,000 บาท ซึ่งครูต่อรองขอเหลือ 150,000 บาท แต่ได้รับคำตอบว่าไม่ได้ หลังจากนั้นไม่กี่วันโทรมาอีกว่าตกลงจะเอาหรือไม่ ถ้าไม่เอาจะให้ครูอีกรายขึ้นมาแทน ครูรายนี้จึงร้องเรียนกับตนว่าอยากให้มีการตรวจสอบคะแนนในการพิจารณาการย้ายครั้งนี้
“ขณะนี้การพิจารณาขอย้ายดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นการพิจารณาการย้ายในรอบแรก ซึ่งครูรายนี้อยากให้ไปตรวจสอบว่ามีการแก้ไขคะแนนหรือไม่ และตั้งคำถามว่ามีการแก้ไขคะแนนได้ด้วยหรือ เรื่องนี้ผมคงไม่สามารถลงไปตรวจสอบ หรือทำอะไรได้ทัน เพราะระยะเวลาในการทำงานเหลือไม่มากนัก แต่ผมจะรายงานต่อ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. รวมถึงแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ต้นสังกัดลงไปตรวจสอบ” พล.อ.โกศล กล่าว
พล.อ.โกศล กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าการจัดการเรื่องทุจริตของ ศธ. ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ตนเร่งจัดการปัญหาทุจริตภายในกระทรวงทุกเรื่อง แต่บางเรื่องอาจไม่สามารถจัดการได้เร็วอย่างที่คิด เพราะติดขัดอยู่บ้างในบางขั้นตอน ดังนั้นตนวางแผนเขียนเป็นบทเรียนว่าระยะเวลา 2 ปี เห็นอะไรและจัดการปัญหาทุจริตอย่างไรบ้าง และมีเรื่องสำคัญไหนบ้างยังไม่เสร็จ เช่น เรื่องการก่อสร้าง โครงการสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา หรือ อควาเรียมหอยสังข์ ที่วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.สงขลา ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ขณะนี้ตนโล่งใจขึ้นเพราะมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงแล้ว หรือเรื่องการตรวจสอบการจัดตั้งระบบกล้องวงจรปิดในโครงการ Safe Zone School (CCTV) 12 เขตพื้นที่การศึกษา ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้ได้เสนอรายชื่อคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ให้สำนักนายกรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งแล้ว นอกจากนี้ ยังมีโครงการก่อสร้างหลังคาคลุมลานอเนกประสงค์ (โดม) ของ 11 โรงเรียน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ตามโครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนใต้ ที่ยังไม่มีการสรุปผล
“อีกเรื่องคือโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์ฝึกทักษะมัธยมศึกษาตอนต้น ของ สพฐ. จำนวน 279 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งกรณีที่เกิดขึ้นในปี 2558 ที่ยังอยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ส่วนปัญหาครุภัณฑ์ที่เกิดขึ้นในปี 2561 คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง ที่มีนายสนิท แย้มเกษร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เป็นประธาน ได้สรุปผลและส่งเรื่องไปที่ สพฐ. แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบสำนวน เบื้องต้นผมได้รับรายงานด้วยวาจาว่า มีมูล มีผู้เกี่ยวข้อง 11 คน เป็นระดับปฏิบัติการ และผู้อำนวยการโรงเรียนในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม จะสรุปและเสนอรัฐมนตรีว่าการศธ. ภายในเดือนเมษายนนี้เพื่อพิจารณา” พล.อ.โกศล กล่าว และว่า ส่วนบทเรียนที่ตนจะเขียนนั้น จะให้เสร็จภายในเดือนเมษายน และนำเสนอ นพ.ธีระเกียรติ พิจารณาต่อไปว่าจะส่งมอบให้กับรัฐมนตรีว่าการ ศธ.คนต่อไปหรือไม่
