คอลัมน์ คิดเห็นแชร์ : โค้งแรก…ไบเดน กับ การค้าโลก-การค้าไทย

คอลัมน์ คิดเห็นแชร์ : โค้งแรก...ไบเดน กับ การค้าโลก-การค้าไทย

คอลัมน์ คิดเห็นแชร์ : โค้งแรก…ไบเดน
กับ การค้าโลก-การค้าไทย

สวัสดีค่ะ ดิฉันหวังว่าทุกท่านได้ผ่านพ้นปี 2563 ที่ค่อนข้างยากลำบากไปได้อย่างเรียบร้อย และขอให้ปี 2564 นี้ ท่านผู้อ่านทุกท่านจะได้พบแต่สิ่งดีงามในชีวิต สิ่งไม่ดีอย่าได้กล้ำกรายค่ะ

เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม ปีนี้ มีเหตุการณ์ใหญ่สำหรับการค้าโลกเกิดขึ้น ประการหนึ่ง คือ การเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ของ นายโจเซฟ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ถือเป็นการปิดฉากอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์
ทรัมป์ ไปอย่างไม่ค่อยสวยงามนัก แต่ในส่วนของไทยคือ สหรัฐได้รัฐบาลใหม่แล้วพร้อมกับแนวนโยบายใหม่ ซึ่งเราควรต้องติดตามอย่างใกล้ชิดค่ะ ทั้งนี้ ก่อนที่เราจะไปดูความเคลื่อนไหวล่าสุดของนโยบายการค้าสหรัฐ ดิฉันขอนำสรุปตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยที่จบไปเมื่อปลายปี 2563 เพื่อเป็นการปูทางกันก่อนนะคะ

สรุปการค้าระหว่างประเทศไทยปี 2563

Advertisement

การส่งออกของไทยกลับมาขยายตัวในเดือนธันวาคม 2563 สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง การส่งออกไทยเดือนธันวาคม 2563 มีมูลค่า 20,082.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว +4.71% ทำให้ตัวเลขส่งออกทั้งปี 2563 อยู่ที่ 231,468.44 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือหดตัว -6.01% ส่วนการนำเข้าเดือนธันวาคม 2563 มีมูลค่า 19,119.16 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือขยายตัว +3.62% ทำให้การนำเข้าทั้งปี 2563 อยู่ที่ 206,991.89 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือหดตัว -12.39% ทำให้การค้าระหว่างประเทศของไทยเกินดุลที่ 24,476.55 ล้านเหรียญเหรียญ ในปี 2563

โดยปัจจัยสำคัญในการฟื้นตัวช่วงเดือนสุดท้ายของปี 2563 นั้น นอกจากจะเกิดจากการฟื้นตัวของประเทศคู่ค้าแล้ว สินค้าอุตสาหกรรมหลายตัว เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และสินค้าดาวรุ่งจากยุคโควิดทั้งหลาย เช่น กลุ่มอาหาร สินค้า work from home และสินค้าสุขภาพ/ความปลอดภัย ก็ยังทำขยายตัวหรือติดลบน้อยลงมากอีกด้วย

ในด้านตลาดส่งออกสำคัญของทั้งปี 2563 ตลาดสหรัฐ ขยายตัวสูงสุดที่ 9.6% จีน 2% ส่วนตลาดอื่นๆ หดตัวหมด เช่น ญี่ปุ่นหดตัว 6.7% สหภาพยุโรปหดตัว 12.7% ตลาดอาเซียนหดตัว 12.2% เป็นต้น จากภาพรวมทั้งปี 2563 ขณะนี้สหรัฐถือเป็นตลาดเดี่ยวที่สำคัญที่สุดของการส่งออกไทย มีสัดส่วนการส่งออกของไทยที่ 14.8% ตามด้วยจีนที่ 12.9% ขณะที่อาเซียน (9) มีสัดส่วน 24%

Advertisement

แนวโน้มการส่งออกไทยไปสหรัฐ ปี 2564

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ได้ทำการคาดการณ์เบื้องต้น การส่งออกของไทยไปสหรัฐในปี 2564 มีแนวโน้มขยายตัว 6.2% มีมูลค่า 36,459 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับปี 2563 ที่มีมูลค่า 34,344 ล้านเหรียญสหรัฐ และขยายตัว 9.6% ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องจากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังสามารถขยายตัวได้สูง และสินค้าไทยรักษาความสามารถทางการแข่งขันได้ดี รวมทั้งมีสินค้าใหม่เจาะตลาดได้มากขึ้น นอกจากนี้ นโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีไบเดน ที่มุ่งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ จึงส่งผลให้สินค้าไทยได้อานิสงส์ต่อเนื่อง

จากการศึกษาของ สนค. พบว่าสินค้าในตลาดสหรัฐ แบ่งได้ 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม 1 คือ สินค้าที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง มีสัดส่วนประมาณ 82% และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในปี 2564 เช่น เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ อาหารสัตว์เลี้ยง อาหารทะเลกระป๋อง ผลไม้กระป๋องและแปรรูป และผลิตภัณฑ์ข้าวสาลี เป็นต้น

กลุ่ม 2 คือ สินค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือมีมูลค่าการส่งออกลดลงต่อเนื่อง จากสงครามการค้า มีสัดส่วนประมาณ 16.8% เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ และสิ่งทอ เป็นต้น ส่วนหนึ่งเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยและสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมัน คาดว่าสินค้ากลุ่มนี้กลับมาขยายตัวช้าๆ ในปี 2564

และกลุ่ม 3 คือ สินค้าที่มีปัญหาระยะยาว มีสัดส่วนประมาณ 1.2% โดยเฉพาะสินค้าประมง เช่น กุ้ง ที่มีปัญหาจากการขาดแคลนผลผลิตของไทยเอง หากมีการแก้ปัญหาดังกล่าว คาดว่าการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้จะปรับตัวดีขึ้น

ในเชิงรับ มีสินค้าสำคัญอย่างน้อย 2 รายการ ที่ต้องเฝ้าระวังและติดตามว่าจะได้รับผลกระทบจากการดำเนินมาตรการทางการค้าของสหรัฐหรือไม่ คือ ผลิตภัณฑ์ยาง ซึ่งปี 2563 มีมูลค่าการส่งออก 3,909 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วน 11.4 % ของการส่งออกไปสหรัฐ และเหล็ก/เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ มีมูลค่าการส่งออก 1,011 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วน 2.9% ซึ่งเป็นสินค้าที่สหรัฐ ติดตามตรวจสอบการสวมสิทธิอย่างใกล้ชิด

นโยบายล่าสุดของสหรัฐ และว่าที่ USTR

นโยบายของนายไบเดน คาดให้ความสำคัญกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ กลับไปให้ความสำคัญกับกติกาการค้าสากล และหลีกเลี่ยงการสร้างข้อจำกัดต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจและการค้าโลก ถือเป็นผลดีต่อการค้าไทย ขณะเดียวกัน การให้ความสำคัญนโยบายสิ่งแวดล้อม อาจส่งผลกับสินค้ายานยนต์ของไทย

สำหรับว่าที่ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ที่นายไบเดนเลือกมา คือ แคทเธอรีน ไถ่ (Katherine Tai) ถือว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง แม้ว่าจะเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียที่พูดภาษาจีนคล่อง และทำงานเกี่ยวกับการค้าในวุฒิสภาสหรัฐมานาน รวมทั้งเคยชนะคดีใน WTO ให้สหรัฐมาเป็นระยะ แต่เธอก็ไม่มีแนวคิดจะผ่อนปรนกับจีน จึงน่าจับตามองว่า จะทำให้ความตึงเครียดเรื่องสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ลดไปบ้างหรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อการส่งออกของไทยไปสหรัฐ ช่วงปี 2564 อย่างแน่นอน

ไว้เรามาติดตามนโยบายสหรัฐกันต่อไป สวัสดีค่ะ

โดย : พิมพ์ชนก พิตต์ฟีลด์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image