เมียไปถือศีลกลับมา ผงะ ผัวจมน้ำดับ ขาถูกตาข่ายพัน เร่งซีพีอาร์แต่ไม่ทัน

เมียไปถือศีลกลับมา ผงะ ผัวจมน้ำดับ ขาถูกตาข่ายพัน เร่งซีพีอาร์แต่ไม่ทัน

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ร้อยตำรวจโทหญิง อชิดา ไผ่โสภา ร้อยเวรสอบสวน สภ. เมืองปราจีนบุรี ได้รับแจ้งว่าพบคนจมน้ำเสียชีวิต บริเวณบ้านหมู่ที่ 4 ตำบลท่างาม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี หลังจากได้รับแจ้งได้เดินทางไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และมูลนิธิสว่างบําเพ็ญธรรมสถานปราจีนบุรี

เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตเป็นชายซึ่งทางญาติได้ช่วยกันนำผู้เสียชีวิตใส่เรือ เพื่อจะนำส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิตในที่สุด ทราบชื่อต่อมาชื่อ นายสมชาย หล้าสมบูรณ์ อายุ 60 ปี เบื้องต้นจากการตรวจสอบร่างกายตามลำตัวไม่พบบาดแผล คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง

จากการสอบถาม นายนิรุตต์ คันซอย อายุ 40 ปี (เป็นเพื่อนบ้าน ที่เป็นคนที่ช่วยนำร่างผู้เสียชีวิต ขึ้นเรือเพื่อที่จะพาไปหาหมอ) กล่าวว่าตนกำลังพักผ่อนอยู่ในบ้านได้ยินเสียงคุณป้าตะโกนให้ร้องให้ช่วย ตนจึงรีบลงไปดูและได้พบว่าลุงได้จมน้ำบริเวณหน้าบ้าน โดยมีมองตาข่ายพันขาอยู่ตนจึงได้รีบช่วยนำร่างของคุณลุงขึ้นมาบนเรือ และได้ทำการ CPR แต่ไม่เป็นผล จึงได้รีบเข็นเรือมายังข้างทางเพื่อที่แจ้งกู้ภัยให้มาช่วยเหลือ แต่คุณลุงได้เสียชีวิตก่อนที่กู้ภัยจะมาถึง

Advertisement

นางอุไร หล้าสมบูรณ์ อายุ 60 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่าตนอยู่บ้านหลังเกิดเหตุกับสามีเพียงแค่ 2 คน เบื้องต้นในวันที่เกิดเหตุนั้นตนได้ไปถือศีลที่วัดและกลับมาช่วงบ่าย ในช่วงเย็นตนได้งีบไปซักพักตื่นมาไม่เจอสามีของตนจึงได้ตะโกนเรียก และเดินหาในบริเวณในบ้านและหน้าบ้าน จึงได้พบกับผู้ตายอยู่ในลักษณะนอนคว่ำหน้า อยู่บริเวณหน้าบ้านตนจึงตะโกนเรียกเพื่อนบ้าน ให้ช่วยพาสามีของตนไปโรงพยาบาล แต่สามีของตนได้เสียชีวิตก่อนจะถึงมือหมอ

“คิดว่าสาเหตุน่าจะมาจากที่สามีตน มาวางมองดักปลาบริเวณหน้าบ้าน ที่เกิดจากน้ำท่วมเข้ามาภายในใต้ถุนบ้าน เคยเตือนสามีหลายครั้งแล้วเกี่ยวกับการวางมองดักปลา โดยได้นำมองไปทำลายและเอาไปซ่อนหลายอัน แล้ว แต่ไม่คิดว่าสามีจะหาเจอและนำมันมาดักปลาจนทำให้เกิดความสูญเสียดังกล่าว”

ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจร่างกายของผู้เสียชีวิตในเบื้องต้น ไม่พบว่ามีบาดแผลใดๆตามร่างกายของผู้เสียชีวิต แต่เนื่องด้วยทางญาติแจ้งว่าผู้เสียชีวิตมีประกันอยู่หลายที่ จึงมีความเห็นว่าให้ส่งนิติเวชโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้ชันสูตรศพโดยละเอียดอีกครั้ง จึงจะมอบศพให้กับทางญาติไปประกอบพิธีตามประเพณีทางศาสนาต่อไป

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image