สงขลาปิดหีบเริ่มนับคะแนนหลายหน่วยใน อ.คลองหอยโข่ง ปชป.นำ อ.สะเดา ส่วนใหญ่ พปชร.นำ พบการหย่อนบัตรทั่วไปบรรยากาศเรียบร้อย
เมื่อวันที่ 16 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงาบรรยากาศการจัดเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 สงขลา โดยภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนมีความตื่นตัวในการเดินทางออกมาใช้สิทธิ ทั้งนี้ คาดว่าเป็นเพราะกระแสการแข่งขันค่อนข้างรุนแรงระหว่าง 2 พรรคการเมืองใหญ่ ระหว่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นอกจากนี้ ยังมีพรรคการเมืองบางพรรคทุ่มเงินเพื่อใช้ในการซื้อเสียงอีกเป็นจำนวนมาก กระจายเกือบทั่วทั้งเขตการเลือกตั้ง ตกประมาณหัวละ 1,000-2,000 บาท จึงทำให้การใช้สิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้คึกคักมากเป็นพิเศษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คืนที่ผ่านมา (15 มกราคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำทุจริตในการเลือกตั้งออกทำการตรวจค้น และกดดันหัวคะแนนของพรรคการเมืองพรรคหนึ่งในพื้นที่ ต.พะตง อ.หาดใหญ่ ต.พังลา อ.สะเดา และใน อ.คลองหอยโข่ง ทั้งนี้ เพื่อป้องปรามมิให้มีการออกไปซื้อเสียงในช่วงคืนหมาหอน ซึ่งก็สามารถช่วยลดการซื้อเสียงไปได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม มีพรรคการเมืองบางพรรคได้ทำการซื้อเสียงก่อนการเลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้วไม่น้อยกว่า 5 วัน จึงทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่เพื่อทำการจับกุมผู้ซื้อเสียงเป็นไปได้ค่อนข้างยาก
นางพะเยีย ศิริโชติ ผอ.กกต.สงขลา กล่าวว่า ในพื้นที่ ต.พะตง อ.หาดใหญ่ ได้รับรายงานการตรวจค้นเพื่อเป็นการป้องปราม และได้ทำการตรวจสอบไปยัง สภ.ทุ่งลุง ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้มีการจับกุม หรือยึดหลักฐานใดๆ เกี่ยวกับการซื้อเสียงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ช่วงที่มีการเลือกตั้ง ชุดเคลื่อนที่เร็ว กกต.สงขลา ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มคนซึ่งรู้จักชัดเจนว่าเป็นผู้สนับสนุนนั่งรวมกลุ่มใกล้หน่วยเลือกตั้ง ในพื้นที่ ต.ทุ่งลาน และ ต.โคกม่วง อ.คลองหอยโข่ง ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และสอบถามพบว่าทั้งหมดเพียงนั่งคุยกัน และได้แยกย้ายเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำว่าไม่ควรอยู่ใกล้ หรือหน้าหน่วยเลือกตั้ง ในกรณีที่เป็นผู้สนับสนุนพรรคการเมือง อาจทำให้เกิดข้อร้องเรียนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังปิดหีบเลือกตั้งในเวลา 17.00 น. ได้เริ่มนับคะแนน พบว่าหลายหน่วยเลือกตั้ง อ.คลองหอยโข่ง คะแนนของผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคประชาธิปัตย์ นำโด่งในหลายหน่วย ขณะที่พื้นที่ อ.สะเดา ส่วนใหญ่ ผู้สมัครหมายเลข 3 พรรคพลังประชารัฐนำลิ่วเช่นเดียวกัน
