เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 16 มิถุนายน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 และพ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร ดีเอสไอ แถลงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีมูลนิธิคุณยายอาจารย์ มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง รับเงินจากสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น จำกัด ว่า จากการสอบสวนคดีพิเศษที่ 27/2559 ที่มีการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร รวมถึงผู้เกี่ยวข้องในความผิดฐานเดียวกันด้วย จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบหลักฐานมีความเชื่อมโยงไปถึงมูลนิธิคุณยายอาจารย์ มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง ซึ่งดีเอสไอได้แยกดำเนินการเป็นคดีพิเศษที่ 24/2560 และสอบสวนต่อเนื่องมา
นายขจรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ได้พยานหลักฐานการดำเนินคดีครบถ้วนแล้ว ที่ประชุมพนักงานสอบสวนจึงสรุปว่าหากมีพยานหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์พอแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาจะออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป ทั้งนี้ ยังพบว่ามีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงมูลนิธิธรรมกายส่วนหนึ่งด้วย อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ทีประชุมได้หารือและให้กับสอบประเด็นเพิ่มอีก 3-4 ประเด็น เพื่อให้มีความรัดกุมชัดเจนเพิ่มขึ้น และให้ครบองค์ประกอบความผิดในการแจ้งข้อกล่าวหา หลังพบว่ามีการนำเงินจากสหกรณ์ฯคลองจั่นมาปลูกสร้างอาคารต่างๆภายในวัด ก่อนจะเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้ามาสอบปากคำซึ่งมีจำนวนหลายรายต่อไป
“ส่วนกรณีน้องสาวของนายบุญชัย เบญจรงคกุล เจ้าสัวหมื่นล้าน ที่พบว่าเป็นกรรมการของมูลนิธิคุณยายอาจารย์ มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง ก่อนหน้านี้ได้เรียกมาสอบถามแล้ว ส่วนจะเรียกมาสอบสวนใหม่หรือไม่นั้น ต้องขอดูพยานหลักฐานอีกครั้ง ส่วนกรรมการคนอื่นในมูลนิธิที่เกี่ยวข้องนอกเหนือจากน้องสาวนายบุญชัย อาจต้องเรียกมาสอบสวนเพิ่มเติม โดยดูจากเส้นทางการเงิน ยืนยันตอนนี้มีหลักฐาน 3 ใน 4 แล้ว และเงินในมูลนิธิฯนี้ส่วนหนึ่งเป็นเงินที่ได้จากสหกรณ์ฯคลองจั่น มูลค่าหลายล้านบาท และยังมีบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก” นายขจรศักดิ์ กล่าว
นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีการสอบสวนนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ส่วนเรื่องที่มีการอายัดที่ดินนั้น ในส่วนนี้คงต้องไปสอบถามทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
