ปี่กลองการเมืองเริ่มโหมโรงเบาๆ เมื่อคสช.ทยอยเปิดไฟกระพริบให้กลุ่มการเมืองใหม่ที่ยื่นจดแจ้งกับ กกต.ทยอยจัดประชุมเพื่อจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่
แต่ทว่า พรรคน้องใหม่มีเรื่องให้ต้องปวดหัวพอสมควรกับการเริ่มนับหนึ่ง ตั้งแต่การหาสมาชิกพรรคให้ครบ 500 คนที่ร่วมก่อตั้งพรรค และใน 500 คนนี้ ต้องร่วมจัดหาทุนประเดิมพรรค 1 ล้านบาท
แต่ใช่ว่าแค่สมาชิกคนใดคนหนึ่งหรือบางคนจะกระเป๋าหนักควักออกแทนคนอื่นได้ เพราะมีข้อกำหนดว่าแต่ละคนจะต้องร่วมลงขันอย่างน้อยคนละ 1 พันบาท แต่ต้องไม่เกิน 5 หมื่นบาท
แล้วใช่ว่าจะเพียงมีผู้ก่อตั้งพรรค 500 คนเท่านั้น ยังต้องหาสมาชิกพรรคอย่างน้อย 9,000-10,000 คน หากจะส่งผู้สมัครลงส.ส.ให้ครบ 350 เขตทั่วประเทศ เพราะในการทำไพรมารี่โหวตนั้น ต้องใช้สมาชิกเป็นตัวกำหนด
ทั้งตัวแทนประจำจังหวัดที่จะต้องมีจังหวัดละไม่น้อยกว่า 100 คน และสาขาพรรค 4 ภาคที่จะต้องมีสมาชิกประจำสาขาละไม่น้อยกว่า 500 คนขึ้นไป
อย่าลืมว่าการเลือกตั้งครั้งใช้บัตรใบเดียว หากส่งผู้สมัครแบบเขตน้อย คะแนนที่จะนำมาเฉลี่ยให้ระบบปาร์ตี้ลิสต์ก็น้อยตามไปด้วย
แต่ทว่า การหาสมาชิกพรรคในปัจจุบัน มิใช่ง่ายๆ เพราะมีพรรคการเมืองเกิดขึ้นมากมาย ขณะที่พรรคเก่าต่างก็ต้องดึงสมาชิกเก่าเอาไว้ให้ได้
ดังนั้น ปรากฏการณ์ “ดูด” จึงยังรุนแรงต่อเนื่อง
แต่ใช่ว่าแต่ละพรรคจะ “ดูด” กันมั่วหรือใช้สิ่งใดมาล่อใจ และผู้ที่จะเป็นสมาชิกก็ไม่อาจเรียกรับประโยชน์ใดแลกกับการเป็นสมาชิกพรรค เพราะมีสิทธิติดคุกและถูกตัดสิทธิการเมืองได้
พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ใน มาตรา 30 ระบุว่า “ห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ใดให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมเพื่อจูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเข้าเป็นสมาชิก ทั้งนี้ เว้นแต่สิทธิหรือประโยชน์ซึ่งบุคคลจะพึงได้รับในฐานะที่เป็นสมาชิก”
มาตรา 31 “ห้ามมิให้ผู้ใดเรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากพรรคการเมืองหรือจากผู้ใดเพื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิก”
มาตรา 109 ระบุว่า “ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 30 หรือมาตรา 31 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดห้าปี”
“ถ้าความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นการกระทําเพื่อให้ลงหรือขอลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น”
อย่าคิดว่าหาหลักฐานพิสูจน์ยาก ยุคนี้ใครแอบทำอะไรไว้ มักจะมีคลิปออกมาแฉให้เห็นกันอยู่บ่อยครั้ง
เกมการเมืองนั้นลึกล้ำซับซ้อน อาจมีการส่งพวกสปายสายล้วง เข้าไปเป็นสมาชิกพรรคหวังเป็นม้าเมืองทรอยเข้าไปทำลายป้อมปราการพรรคฝ่ายตรงข้ามให้พินาศได้
อาจดูว่ามองในแง่ร้ายเกินไป แต่ใช่จะไม่มีทางเกิดขึ้น ก็อยากเตือนให้ระวังๆ กันไว้ โดยเฉพาะบรรดาพรรคใหม่ ที่อาจตามไม่ทันนักการเมืองประเภทเขี้ยวลากดิน
ดังนั้นหาก “ดูด” ไม่ดูตาม้าตาเรือ หรือไม่ดูหัวนอนปลายเท้า อาจติดคุกกันได้
