สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า สหภาพยุโรป (อียู) เตือนเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ว่า สินค้าส่งออกของสหรัฐอเมริกาคิดเป็นมูลค่ามากถึง 294,000 ล้านดอลลาร์จะต้องเผชิญกับมาตรการตอบโต้ทางภาษีหากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเดินหน้าตามคำขู่ว่าจะกำหนดกำแพงภาษีต่อรถยนต์นำเข้าจากยุโรป
นายทรัมป์ชี้ว่ายุโรปเป็นปัญหาใหญ่ด้านการค้าของสหรัฐพอๆ กับจีนและขู่ว่าจะต่อสู้กับอียูด้วยการกำหนดกำแพงภาษี 20 เปอร์เซ็นต์ต่อรถนำเข้าจากยุโรป
คำขู่ของนายทรัมป์เป็นการจุดชนวนล่าสุดในสงครามการค้าที่ยกระดับขึ้นมาหลังอียูกำหนดกำแพงภาษีต่อการเกงยีนส์ของสหรัฐและรถมอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ในการตอบโต้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ต่อการกำหนดกำแพงภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมส่งออกจากยุโรปไปยังสหรัฐ
ในจดหมายที่ส่งถึงเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐ คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ซึ่งกำหนดกับนโยบายการค้าของสมาชิกอียู 28 ชาติ ระบุภาพของเศรษฐกิจสหรัฐที่แห้งเหี่ยวหากนายทรัมป์เดินหน้าปฏิบัติตามคำขู่
“การวิเคราะห์เศรษฐกิจยืนยันว่ากำแพงภาษีที่เพิ่มขึ้นต่อสินค้าเหล่านี้จะส่งผลกระทบในทางลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐก่อนเป็นลำดับแรกและรุนแรงที่สุด” จดหมายระบุ
อีซีกล่าวด้วยว่า “สินค้าส่งออกจากสหรัฐมูลค่า 294,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นเท่ากับมากถึง 19 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของสหรัฐในปี 2560 อาจตกเป็นเป้าของการกำหนดกำแพงภาษีตอบโต้ตลอดทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจสหรัฐ
อีซียังเน้นย้ำด้วยว่าบริษัทรถยนต์ของยุโรปหลายแห่งเป็นผู้มีส่วนร่วมสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจสหรัฐ และ “ลงหลักปักฐาน” อย่างมั่นคงที่นั่น
“ในปี 2550 บริษัทรถยนต์ยุโรปที่ตั้งอยู่ในสหรัฐผลิตรถได้เกือบ 2,900,000 คัน ซึ่งคิดเป็น 26 เปอร์เซ็นต์ของการผลิตทั้งหมดในสหรัฐ” อีซีระบุ
บริษัทเหล่านี้สนับสนุนการจ้างงาน 120,000 ตำแหน่งทั้งโดยตรงและโดยอ้อมในโรงงานทั่วสหรัฐจากการเปิดเผยของอียู และชี้ให้เห็นว่าโดยเฉพาะในรัฐเซาท์แคโรไลนา แอละแบมา มิสซิสซิปปีและเทนเนสซี รัฐทางตอนใต้ที่ให้การสนับสนุนนายทรัมป์อย่างมั่นคง