วันที่ 24 มิถุนายน หลังจากมีชาวบ้านผู้เสียหายในพื้นที่ อ.บึงนาราง จ.พิจิตร ได้เข้าร้องทุกข์มายังศูนย์ดำรงธรรม จำนวนหลายรายว่ามีแก๊งเก็บเงินกู้รายวันดอกเบี้ยโหดร้อยละ 20 ต่อวัน มีพฤติกรรมการทวงหนี้โหดใช้คำพูดข่มขู่ ดูแคลน และบุกรุกเข้าไปในบ้านลูกหนี้พยายามทำร้ายร่างกาย ซึ่งเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล ดังนั้น นายพิษณุ เสนาวิน รองผู้ว่าราชการ จ.พิจิตร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม จ.พิจิตร ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.กฤติกร ปานผล รองหัวหน้าชุดเฉพาะกิจศูนย์ดำรงธรรม จ.พิจิตร ร่วมกับกำลังสารวัตรทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่ 36 และตำรวจภูธร สภ.บึงนาราง ติดตามจับกุมแก๊งทวงหนี้ดังกล่าวทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแก๊งเก็บเงินกู้ดังกล่าวทั้งสองรายรวม 4 คน ได้ที่บริเวณบ้านหนองแขม หมู่ที่ 4 ต.บึงนาราง อ.บึงนาราง ขณะบุกเข้าไปข่มขู่และพยายามทำร้ายร่างกายลูกหนี้ภายในบ้าน ทราบชื่อภายหลังผู้ต้องหารายแรก คือนายชำนาญ สุขนุ่น มีตำแหน่งเป็นถึงเลขานุการนายกเทศมนตรีเทศบาล ต.หนองขุ่น จ.ชัยนาท และนายธนวุฒิ โพธิวรรณ ส่วนรายที่ 2 คือนายพิทยา รัตนวงศ์ และนายธันวา จุ้ยวอน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล พร้อมของกลางอาวุธมีดจำนวน 3 เล่ม รถยนต์เก๋ง 2 คัน เงินสดรวมกว่า 8 หมื่นบาท บัญชีลูกหนี้จำนวนมาก สมุดบัญชีธนาคาร และบัตรเอทีเอ็มหลายใบ และโทรศัพท์ 4 เครื่อง
จากการสอบสวนทราบว่า แก๊งแรกมีนายทุนเป็นชาว จ.ชัยนาท และแก๊งที่ 2 มีนายทุนเป็นชาว จ.นครสวรรค์ โดยนายทุนดังกล่าวจะปล่อยเงินกู้รายวันให้ชาวบ้านผู้เดือดร้อน มาขอกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาทต่อวัน และผู้ต้องหาทั้ง 4 คนจะคอยรับจ้างนายทุนเก็บหนี้รายวันให้ โดยจะได้เปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งเป็นค่าจ้างแทน หากลูกหนี้รายไหนไม่มีจ่าย ก็จะใช้คำพูดข่มขู่ดูแคลนและใช้กำลังทำร้ายตบตี เพื่อให้ได้เงินมาตามบัญชีหนี้สิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวและของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บึงนาราง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมกับขยายผลกลุ่มนายทุนเงินกู้ต่อไป
