“วิโรจน์” ไม่ปล่อยกรณีพลทหารฝึก 2 เดือนตาย ตั้งกระทู้บี้กองทัพ เหตุในค่ายสุรสีห์ล่าสุด ถามมีโรคประจำตัว แล้วรับมาประจำการได้อย่างไร จี้ชันสูตรศพใหม่ ด้าน “บิ๊กช้าง” แจงแทน “บิ๊กตู่”
เมื่อเวลา 14.10 น.วันที่ 15 มกราคม ที่รัฐสภา เกียกกาย มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณากระทู้ถามสดของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรื่อง การเสียชีวิตของพลทหารชัยชนะ ทาศรี อายุ 21 ปี ทหารใหม่ผลัด 2/2562 ที่กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 29 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา หลังเข้ารับการฝึกเพียง 2 เดือนว่า กรณีนี้เพื่อนผู้ตายได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า พลทหารชัยชนะเสียชีวิตเพราะถูกซ้อม โดยที่วันรุ่งขึ้นแม่ของผู้ตายก็ออกมายืนยันว่า ลูกชายไม่เคยป่วยด้วยโรคอะไรมาก่อนเลย เพียงแต่มีปัญหาด้านสัมปชัญญะ และการพูดเท่านั้น ขณะที่ป้าของผู้ตายก็ติดใจอยากให้มีการชันสูตรพลิกศพซ้ำ แต่ครอบครัวยากจน และไม่สามารถไปรับศพได้ เพราะมีเงื่อนไขต้องแถลงแก้ข่าวก่อนถึงจะนำศพกลับบ้านได้ จากนั้นญาติก็แถลงข่าวแก้ว่า ไม่ติดใจกับการเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ทาง ผบ.ร.29 พัน.3 ได้ชี้แจงเบื้องต้นว่า จากการตรวจสุขภาพของพลทหารชัยชนะพบว่า สภาพร่างกายไม่แข็งแรงอยู่ก่อนแล้ว ตนคิดว่า สิ่งที่ ผบ.ร.29 พัน.3 ระบุนั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะงบประมาณในการตรวจคัดเลือกทหารเกณฑ์ในปี 2562 มีถึง 140 ล้านบาท
“ปกติถ้ามีการตรวจคัดเลือกแล้วพบว่า พลทหารชัยชนะมีปัญหาด้านสุขภาพ และจะส่งผลต่อการฝึกแน่นอน กองทัพตรวจรับพลทหารชัยชนะเข้ามาประจำการได้อย่างไร ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในสมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีดารานักร้องที่มักจะป่วยเป็นโรคหอบหืด ทั้งๆ ที่เวลาเล่นหนังหรือแสดงคอนเสิร์ตก็เต้นได้ตลอดทั้งงาน ถ้าเป็นโรคหรือมีอุปสรรคในการฝึกกองทัพจะไม่รับเข้ามาประจำการอยู่แล้ว ดังนั้น จากคำพูดของ ผบ.ร.29 พัน.3 กรณีนี้ถือว่าชัดเจนว่า พลทหารชัยชนะมีปัญหาด้านสุขภาพอยู่แล้ว แต่ก็ยังรับเข้าประจำการ อีกทั้ง ผบ.ร.29 พัน.3 ยังระบุอีกว่า เมื่อฝึกได้ 1 สัปดาห์ก็พบความผิดปกติ จึงให้หยุดฝึกอีก 1 สัปดาห์ และฝึกต่ออีก ทำไมไม่ดูแลทหารเกณฑ์เหมือนน้องชายคนเล็กอย่างที่ ผบ.ทบ.ระบุ ทำไมยังมีน้อยชายคนเล็กเสียชีวิตในบ้านอีกแล้ว” นายวิโรจน์กล่าว และว่า ตนจึงอยากถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับการคัดเลือก เพราะเมื่อพบว่า มีปัญหาสุขภาพแล้วรับเข้ามาได้อย่างไร งบประมาณ 140 ล้านบาท ในการตรวจคัดเลือกนั้นรอบคอบหรือไม่ แล้วทำไมเวลาพบว่ามีอุปสรรคต่อการฝึกทำไมถึงไม่จำหน่ายออก รวมไปถึงเมื่อพลทหารชีวิตแล้วได้แจ้งญาติก่อนการชันสูตรพลิกศพตาม ป.วิอาญาหรือไม่ เพราะก่อนที่จะแถลงแก้ข่าว ญาติยังติดใจการเสียชีวิตอยู่ จึงอยากให้มีการชันสูตรพลิกศพซ้ำว่า มีร่องรอยซ้อมทรมาน หรือเบี่ยงเบนผลแห่งคดีหรือไม่
ด้าน พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงแทนว่า ที่ผ่านมาการคัดเลือกพลทหารกองประจำการนั้น จะมีนายทหารเป็นหัวหน้า และมีแพทย์จากทั้งพลเรือน และทหารมาตรวจ โดยจะพิจารณาจากสุขภาพร่างกายในขั้นต้นว่า มีโรคประจำตัวหรือไม่ ถ้ามีก็สามารถแจ้งต่อแพทย์ได้ ก็จะทำให้คัดกรองได้มากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า ในความเป็นจริงผู้ที่มาคัดเลือกก็ไม่ทราบว่า ตัวเองมีโรคประจำตัวอยู่ ดังนั้น เมื่อเข้ามาประจำการแล้วก่อนฝึกจึงมีการตรวจคัดกรองอีกครั้ง ซึ่งกรณีของพลทหารชัยชนะนั้น แพทย์ลงความเห็นว่า สามารถรับการฝึกได้ แม้จากการสังเกตอาการ และหน่วยฝึกจะพบความผิดปกติ จึงได้ให้ติดตามการฝึกหรือดูการฝึกเท่านั้น ไม่ได้ให้ฝึกจริง แต่บังเอิญพลทหารชัยชนะถูกกิ่งไม้เกี่ยวที่ตา จึงทำให้ตาบวมแดง และได้เข้าโรงพยาบาล โดยญาติและทางหน่วยได้มีการติดตามให้ทราบถึงการเจ็บป่วยของพลทหารชัยชนะตลอดเวลา ซึ่งญาติไม่ติดใจไปแล้ว และทุกวันนี้ได้รับศพไปทำฌาปนกิจตามกระบวนการแล้ว อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากองทัพได้ให้ความสำคัญพลทหารที่มาประจำการเป็นน้องชายจริงๆ ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน หากพบความผิดมีการลงโทษทางวินัยและอาญา ปลดถอดยศ เช่นเดียวกับกรณีดังกล่าวซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการตามขั้นตอน
