กรณีศาลอาญาอ่านคำตัดสิน บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด หรือ พีเอ็มทีแอล (PMTL) มีการสำแดงราคานำเข้าบหุรี่จากอินโดนีเซียระหว่างปี 2543-2546 ไม่ถูกต้อง และศาลได้พิพากษายกฟ้องอดีตพนักงานซึ่งถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีนี้ในทุกข้อกล่าวหา โดยศาลพิจารณากำหนดค่าปรับเป็นเงิน 130,145,870.12 บาท (หรือประมาณ 4 ล้านเหรียญสหรัฐ)
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม นายเจอรัลด์ มาร์โกลีส ผู้จัดการสาขา PMTL เปิดเผยว่า พร้อมยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของกล่าวว่า บริษัทไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคำตัดสินของศาลในวันนี้ เนื่องจากคำตัดสินดังกล่าวขัดต่อกฎหมายศุลกากรของไทยและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงคำตัดสินต่างๆ ของหน่วยงานทั้งไทยและต่างประเทศก่อนหน้านี้ โดยจะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวเพื่อต่อส้คูดี
“องค์การการค้าโลกได้มีคำตัดสินออกมาหลายครั้งว่า ประเทศไทยดำเนินการขัดต่อกฎหมายการค้าระหวา่งประเทศ โดยการปฏิเสธราคานำเข้าที่ PMTL สำแดง และดำเนินการฟ้องร้องคดีอาญากับ PMTL เมื่อเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลฟิลปิปินส์จึงร้องขอต่อองค์การค้าโลก เพื่อเริ่มกระบวนการตอบโต้ทาง การค้าอันเนื่องมาจากการที่ประเทศไทยไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีที่มีกับองค์การค้าโลก ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการค้าระหว่างไทยและฟิลิปปินส์จำนวนมาก” นายมาร์โกลีส กล่าวและว่า คดีนี้ก่อให้เกิดข้อกังขาอีกครั้งต่อระบบเงินสินบนรางวัลที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาอย่างยาวนานว่า เป็นแรงจงูใจจากเงินค่าปรับและสร้างผลประโยชน์ขัดแย้งสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐบาลของไทยที่อาจจะได้รับประโยชน์เป็นการส่วนตัวจำนวนมากจากค่าปรับที่ได้รับ
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
นายมาร์โกลีส กล่าวว่า คดีนี้เป็นการตอกย้ำถึงการไม่ดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบการค้าระหว่างประเทศ และเป็นอีกหนึ่งกรณีล่าสุดต่อบริษัทต่างประเทศที่จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนต่อเนื่อง และการลงทุนใหม่จากต่างประเทศ การปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมนี้ คุกคามความเชื่อมั่นในการลงทุนในประเทศไทยของเรา ซึ่งรวมถึงการซื้อใบยาสูบจากประเทศไทย คดีนี้เป็นเรื่องน่ากังวลอย่างยิ่งสำหรับทุกบริษัทที่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้องในประเทศไทย เราจะอุทธรณ์คำตัดสินและต่อสู้ข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริงนี้ต่อไป