แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ เผยชีวิตเหมือนสวรรค์สาป เคยดังทะลุฟ้า แต่วันนี้ไม่มีเงิน

แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์

แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ เผยชีวิตเหมือนสวรรค์สาป เคยดังทะลุฟ้า แต่วันนี้ไม่มีเงิน

แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์-กลายเป็นข่าวที่คนให้ความสนใจทันที เมื่อ บิณฑ์ กับ ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ลงพื้นที่แจกเงินช่วยผู้ที่เดือดร้อน ยากไร้ และได้ไปพบอดีตนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ ในห้องเล็กๆย่านชุมชนที่จรัญสนิทวงศ์ โดยอดีตนักร้องดัง อยู่ในสภาวะที่ลำบาก ดวงตามองเห็นไม่ชัด 1 ข้าง จึงได้ช่วยเงินไป 1 หมื่นบาท เกี่ยวกับเรื่องนี้ไทด์ เอกพันธ์ และแสงสุรีย์ ได้ให้เล่ารายละเอียดผ่านรายการ ‘โหนกระแส’ ที่แพร่ภาพทางช่อง 3 HD โดยไทด์บอกว่า ตอนแรกที่เจอ ตนจำไม่ได้

“เขาใส่แมสก์แล้วถามว่าจำเขาได้มั้ย เขาบอกว่าเขาพี่แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ พอเปิดแมสก์ออก อ้าว แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์จริงๆ ในใจวูบเข้ามา พี่เขาอยู่สภาพแบบนี้เหรอ อดีตนักร้องมีชื่อเสียงโด่งดังมาก แล้วเพลงน้องใส่เสื้อลายมันก็ลอยขึ้นมา เราก็ร้องเพลงตรงนั้นเลย”

การได้เจอแสงสุรีย์ในครั้งนี้ ไทด์บอกว่ารู้สึกตกใจ

“ไม่คิดว่านักร้องที่เคยโด่งดังในอดีตจะอยู่แบบนั้น เป็นห้องเล็กๆ สภาพความเป็นอยู่ คือเข้าไปก็เจอเตียงนอนเลย”

Advertisement

เมื่อพิธีกรถามว่า จากนักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากๆ ทำไมชีวิตความเป็นอยู่ปัจจุบันถึงเป็นแบบนี้ แสงสุรีย์บอก

“จริงๆ เมื่อก่อนก็อยู่ดี บ้านก็มี บ้านนอกโคราช แต่อย่างนี้ผมมาอยู่ เพราะไม่ต้องใช้จ่ายอะไรมาก เป็นบ้านผมเอง เสียแค่ค่าน้ำค่าไฟ ค่ากิน ค่าใช้จ่าย เผอิญช่วงนี้มีโควิดผมก็เลยมาอยู่อย่างนี้”

แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์
แสงสุรีย์ในวัย 66 ปี ยังบอกด้วยว่า ทุกวันนี้เขาก็ยังรับงาน แต่พอโควิด-19 ระบาด ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก็ไม่มีรายได้แม้แต่บาทเดียว ขณะที่ยังต้องใช้จ่าย ต้องเลี้ยงดูลูกหลาน ค่ากิน ค่าอยู่

Advertisement

“ทุกวันนี้ไม่มีเงิน ไม่มีงาน เมื่อก่อนไปแสดงตามงานวัด งานแต่ง งานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ พอมีตังค์ แต่พอมีโควิด ผมก็ไม่ได้เตรียมตัว ไม่ได้เตรียมเงิน ได้มาก็ใช้ไป”

เล่าด้วยว่าในส่วนงานจ้างที่เคยมี แต่ละครั้งเขาได้ค่าเหนื่อย 5,000 บาทขึ้นไป แต่พอไม่มีงานก็ไม่มีเงิน “ตอนนี้ไม่มีสนิทเลย”

เขายังบอกด้วยว่า ที่ผ่านมาได้ลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา ซึ่งระหว่างนี้กำลังทำเรื่องร้องเรียนเพื่อให้ทบทวนสิทธิ์ “ผมทำไปแล้ว ไม่ผ่านซะที เขาเลยบอกให้ไปร้องเรียนเผื่อจะได้”

อดีตนักร้องคนดังยังบอกอีกว่า รู้สึกขอบคุณมาก ที่บิณฑ์ให้เงินช่วยเหลือ

“เหมือนเทวดามาโปรด ตอนเขาไปผมไม่มีเงินสักบาท แต่ผมก็กินข้าวหลวงที่เขาไปแจก ถุงพระราชทาน มีข้าวสารอาหารแห้ง ปลากระป๋อง ก็อยู่ได้”

ด้ายไทด์ก็เสริม ว่าตอนบิณฑ์เขามอบเงินให้ 1 หมื่น เพื่อเป็นทุนต่อสู้กับชีวิต แสงสุรีย์ก็น้ำตาคลอ ร้องไห้ ว่าเราได้ช่วยเหลือ

“ผมไม่นึกเลย” แสงสุรีย์ว่าอย่างนั้น

ด้านไทด์ก็ว่า “เราก็ไม่คิดว่าจะมาเจอรุ่นพี่ หรือคนที่เราชื่นชอบมากๆ ในเพลงของเขา แต่สุขใจที่ได้ช่วยเหลือในวงการเดียวกัน ก็บอกเขาว่าถ้าตาภายในอาทิตย์สองอาทิตย์นี้ไม่มีใครมาช่วย…แต่ตอนนี้มีรพ. นึงจะรักษาให้ฟรี”

เรื่องดวงตาดังกล่าว แสงสุรีย์บอกว่าเป็นเพราะ “เลนส์ตาที่เคยทำไว้หลุด ข้างขวามองเห็นแสงลางๆ”

พิธีกรถามอีกว่า มีคนสงสัยเรื่องเป็นนักร้องดัง ทำไมถีงไม่ได้เก็บเงิน แสงสุรีย์ก็บอก “ผมเป็นลูกจ้าง เขาซื้อตัวผมไปทำวงดนตรี 2521-25 ที่วงดนตรีคนเยอะๆ ไปดูผม มีนายทุนเขาซื้อวงไป เขาหาไป วงของผมราคาจริงๆ แค่ 2-3 หมื่น ได้เป็นรายวัน คืนละ 2 หมื่น ผมได้ 5 เปอร์เซ็นต์ของ 2 หมื่น”

อีกทั้งยัง “ต้องแบ่งอาจารย์อีก 500” เท่ากับตัวเองเหลือรายได้วันละ 500 บาท

“เป็นกฎเกณฑ์ลูกทุ่ง เหมือนสวรรค์สาป”

ส่วนเมื่อไทด์ตั้งข้อสงสัย “ถามเป็นความรู้ ทำไมพี่ยอดรัก พี่สายัณห์เขาร่ำรวย มีเงินทอง”

แสงสุรีย์ตอบ “ก็เหมือนกัน ทุกวันนี้เขาก็ไม่เหลือแล้วนี่ เขามีนายทุน แต่พวกนี้ชิ่งออกมาจากนายทุนก่อน พี่เป้า สายัณห์ ชิ่งออกมา ยอดรัก ก็ชิ่งออกมาทำเอง”

พิธีกรถามต่อว่า เท่ากับนักร้องสมัยก่อนที่โด่งดัง แต่มีนายห้าง เป็นคนออกเทป ออกเพลง ออกแผ่นเสียงให้ ตั้งวงให้ เราเป็นลูกจ้าง ดังทะลุฟ้าแต่ร้องเพลงงานนึงเงินถึงเราได้ 500 ?

แสงสุรีย์ก็บอก “แล้วมีนายทุนซับซ้อน ซื้อเป็นปี แล้วไปเก็บวิกเป็นแสนเป็นล้าน ซื้อขาดตัวไปเลย”

“ต้องทำสัญญาอยู่ภายใต้อาณัตินายห้างผู้ทำแผ่นเสียง อันนี้ไม่ได้ อันนั้นไม่ได้ โดนจับ เขาบอกทำไมไม่มีตังค์ แล้วผมจะได้อะไร”

“พอนึกถึงเรื่องเก่าๆ แล้วขึ้นเลย (หัวเราะ) บางคนก็เข้าใจ หัวอกเดียวกัน”

แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์

ในด้านสุขภาพแสงสุรีย์บอกว่า ตอนนี้มีอาการหูอื้อ ได้ยินไม่ค่อยชัด ขณะที่ตาข้างหนึ่งก็มองไม่ค่อยเห็น และยังเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งเรื่องการรักษานั้นไทด์บอกว่า หากแสงสุรีย์ไม่มีเงินรักษาก็จะรับดูแลให้

ไทด์ยังบอกด้วยว่า เมื่อวันก่อนเขาก็ได้เจอ เนตรดาว นภาวรรณ เป็นนักแสดงรุ่นเดียวกับ เพชรา เชาวราษฎร์ โดยเนตรดาวนั้นโดนตัดขาข้างหนึ่ง จากสาเหตุที่มีแผลแล้วเกิดการติดเชื้อ

“ไปเจอแถวชุมชนปฏิพัทธ์ คุณบิณฑ์ก็มอบให้ 1 หมื่นเหมือนกัน ร้องห่มร้องไห้น้ำตาแตก เพราะเจ้าของบ้านจะไล่ออกมาแล้ว”

สำหรับการแจกเงินผู้ที่เดือดร้อนครั้งนี้ ไทด์บอกว่าแจกไปแล้วกว่า 1 หมื่นคน เป็นเงินประมาณ 16 ล้านบาท โดย 10 ล้านในจำนวนนั้นเป็นเงินส่วนตัวของบิณฑ์ ที่ได้จากการเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า อีก 6 ล้านได้รับบริจาคมา ซึ่งการแจกเงินนั้นจะแจกวันนี้เป็นวันสุดท้าย

“พรุ่งนี้ไม่แจกครับ เงินหมดเกลี้ยงจริงๆ ครับ”

ส่วนการช่วยเหลือคนที่คิดจะฆ่าตัวตายที่เคยบอกไว้ ไทดก็ว่าบิณฑ์นำเงินอีกส่วนหนึ่ง จำนวน 1 ล้านบาทมอบให้คนที่ติดต่อเข้ามาคนละ 1 พันบาท

“ตอนนี้หยุดแล้ว เพราะไม่ไหว จ่ายไป 5-6 พันราย เงินก็เลยหมด”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image