ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน ประหาร-จำคุกตลอดชีวิต 5 ผู้ต้องหาปล้นเต๊นท์รถ นาทวี

ศาลอุทธรณ์จังหวัดนาทวี มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิตและจำคุกตลอดชีวิต 5 ผู้ต้องหาปล้นเต้นท์รถ “วังโต้ คาร์เซ็นเตอร์” อ.นาทวี จ.สงขลา นำไปประกอบวัตถุระเบิด เมื่อปี 60

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พันเอก เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีคนร้ายบุกปล้นรถยนต์จากเต็นท์รถยนต์ “วังโต้ คาร์เซ็นเตอร์” อ.นาทวี จ.สงขลา จำนวน 5 คัน เพื่อนำไปประกอบวัตถุระเบิด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2560

โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ออกหมาย ป.วิอาญา 15 หมาย และได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยได้ จำนวน 5 คน ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย โดย ศาลจังหวัดนาทวี (ชั้นต้น) ได้พิพากษาคดี เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2562 ให้จำเลยที่ 1-4 มีความผิดฐาน ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ความผิดเกี่ยวกับก่อการร้ายฯ อั้งยี่, ซ่องโจร ก่อให้เกิดระเบิด ความผิดต่อชีวิต พยายามกระทำผิดต่อเสรีภาพ ปล้นทรัพย์ โดยให้ประหารชีวิต นายอัตนันท์ หรือนัน สะอิ จำเลยที่ 1 ส่วนนายภาณุมาศน์ หลีเส็น จำเลยที่ 2, นายมะรอยี หรือเปาซี หรือยี ราแดง จำเลยที่ 3, นายฮารียะ หรือแซะ การี จำเลยที่ 4 ศาลพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต และนายอับดุลมานัส หรือมาน เจะเลาะ จำเลยที่ 5 มีความผิดฐาน เป็นอั้งยี่ ศาพิพากษาให้จำคุก 2 ปี 8 เดือน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ศาลอุทธรณ์จังหวัดนาทวี ได้อ่านคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ภาค 9 คดีแดงที่ 229/62 เหตุปล้นรถยนต์ บริษัทวังโต้คาร์เซ็นเตอร์ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อวันที่ 16 ส.ค.2560 โดยมีพนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้ง 5 คน ในฐานความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ความผิดเกี่ยวกับก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจร ก่อให้เกิดระเบิด ความผิดต่อชีวิต พยายามความผิดต่อเสรีภาพ ปล้นทรัพย์ ซึ่งจำเลยทั้ง 5 คน ได้ให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน และชั้นศาล รวมถึงยังได้รับการประกันตัว ประกอบกับประจักษ์พยาน, วัตถุพยาน, พยานความเชื่อมโยง ศาลอุทธรณ์จังหวัดนาทวี จึงมีคำพิพากษา ยืนตามศาลชั้นต้น คือ ประหารชีวิต จำเลยที่ 1 นายอัตนันท์ สะอิ จำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 2-4 นายภาณุมาศน์ หลีเส็น, นายมะรอยี หรือเปาซีหรือยี ราแดง และนายฮารียะ หรือแซะ การี จำคุก 2 ปี 8 เดือน จำเลยที่ 5 นายอับดุลมานัส เจะเลาะ

Advertisement

ทั้งนี้ ผลจากคำพิพากษาดังกล่าว เป็นไปตามพยานหลักฐานและลักษณะฐานความผิด และเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมุ่งบังคับใช้กฎหมายด้วยความรอบคอบ รวบรวมพยานหลักฐานอย่างรัดกุม ทั้งยังได้ติดตามผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image