นันทิวัฒน์ อดีตรองผอ.สำนักข่าวกรอง จวกแทมมี่ ดักเวิร์ธ “เ.ือกอะไรด้วย”
จากกรณีที่นางแทมมี ดักเวิร์ธ สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐชาวอเมริกันเชื้อสายไทย ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลไทยฟังเสียงเรียกร้องของผู้ชุมนุม และเคารพหลักประชาธิปไตย ก่อนหน้านี้นั้น
คลิกอ่าน แทมมี ดักเวิร์ธ สว.มะกันเชื้อสายไทย ร่วมออกมติวุฒิสภา จี้รบ.ไทยฟังเสียงผู้ชุมนุม เคารพหลักปชต.
ล่าสุด นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตอบโต้แทมมี ดักเวิร์ธ ในหัวข้อ “เ. ือกอะไรด้วย” โดยข้อความระบุว่า
ข่าวที่คณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ วุฒิสภาอเมริกันจำนวน 8 คน และหนึ่งในนั้นมีนางลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ ได้ออกแถลงการณ์ แสดงมติและจุดยืนของสหรัฐในเรื่องสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตยและหลักนิติธรรมในประเทศไทย หลังจากที่การประท้วงนำไปสู่ความรุนแรงและการปราบปรามจากรัฐบาลและสถาบันฯ
อ้างว่าเป็นหน้าที่ของสหรัฐที่ต้องยืนเคียงข้างการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในไทยโดยอ้างว่า ประชาธิปไตยในไทยถูกคุกคาม
ต้องขอชี้แจงแทนรัฐบาลในนามประชาชนคนไทยคนหนึ่ง
การชุมนุมประท้วงของกลุ่มคนตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลและตำรวจยังไม่ได้มีการใช้ความรุนแรงใดๆต่อกลุ่มผู้ประท้วง ไม่มีการใช้กำลังสลายการชุมนุม หากการใช้น้ำฉีด การยิงด้วยก๊าซน้ำตา เป็นความรุนแรง บรรทัดฐานวิธีการในการบริหารจัดการม๊อบทั่วโลก รวมทั้งสหรัฐต้องทบทวนใหม่หมด ตำรวจอเมริกันใช้ความรุนแรงกับม๊อบในเมืองต่างๆที่ชุมนุมเรียกร้องสิทธิของคนต่างสีผิวรุนแรงกว่าที่ตำรวจไทยจัดการอย่างเปรียบเทียบกันไม่ได้ หากการฉีดน้ำและก๊าซน้ำตาเป็นความรุนแรง ตำรวจทั่วโลกรวมทั้งอเมริกัน ใข้ความรุนแรงกว่าไทยมากอย่างเทียบกันไม่ได้
คณะกรรมาธิการฯ คงได้ข้อมูลที่ผิดพลาด ไม่ถูกต้อง คลาดเคลื่อน
รัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้ง มีการบริหารงานผ่านการตรวจสอบของรัฐสภา ไม่มีการคุกคามใดๆต่อประชาธิปไตยในไทย มีแต่การคุกคามต่อสถาบันฯจากกลุ่มม๊อบ
การเป็นพันธมิตรที่ดีระหว่างไทยและอเมริกา ต้องไม่ใช่การก้าวก่ายในกิจการภายใน และการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลไทย ด้วยการออกแถลงการณ์มติในทำนองให้ท้ายกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองและละเมิดกฏหมาย คุกคามความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและละเมิดสิทธิของคนอื่นในการสัญจรและประกอบอาชีพ
หรือนี่จะเป็นปฐมบทของฝ่ายบริหารจากพรรคเดโมแครตที่ชอบใช้ข้ออ้างเรื่องสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตยในการเข้าแทรกแซงรัฐบาลต่างๆที่ไม่อยู่ใต้อาณัติของอเมริกา ดังเช่นที่เคยเข้าแทรกแซงล้มล้างรัฐบาลลิเบีย อียิปต์โดยใช้นักศึกษาปัญญาชน และทหารรับจ้าง
จำได้มั้ย คลินตันปล่อยให้จอร์จ โซรอสทำลายสถานทางการเงินของไทยอย่างไร และเมื่อระบบการเงินไทยมีปัญหา คลินตันนอกจากไม่คิดจะช่วย ยังให้ธุรกิจอเมริกันมารุมกินโต๊ะลดราคารับซื้อกิจการต่างๆในไทยในราคาถูกแสนถูก
คนไทยคงต้องจับตา ติดตามนโยบายด้านความมั่นคงและนโยบายการต่างประเทศของฝ่ายบริหารและรัฐสภาสหรัฐอย่างตาไม่กระพริบ